อุดรธานี - สุดอนาถ รพ.กุมภวาปีนำผู้ป่วยไปทิ้งวัดเป็นที่สลดหดหู่แก่ผู้ที่พบเห็น คาดว่าผู้ป่วยรายนี้ไม่มีญาติยืนยันการรักษาหรือมาดูแลขณะที่นอนรักษาจึงถูกนำมาปล่อยให้นอนที่วัด ล่าสุดปลัดอำเภอกุมภวาปีช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
วันนี้ (10 พ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเฉลิมศักดิ์ อินทร์หา ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยถูกทางโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งใน อ.กุมภวาปี ได้นำคนไข้ใส่รถรีเฟอร์มาปล่อยทิ้งไว้ในวัดศรีนคราคม ต.กุมภวาปี อ.กุมภวาปี ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่เยื้องๆ กับที่ว่าการอำเภอกุมภวาปี
หลังรับแจ้งจึงได้เข้าไปตรวจสอบร่วมกับนายกาลพล วิบูลย์กุล ปลัดอำเภองานป้องกัน อ.กุมภวาปี นายไพฑูรย์ วัชโรสินธุ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 และ นางทองใหม่ ราชพล ผู้ใหญ่บ้าน ม.13 ต.กุมภวาปี เมื่อไปถึงวัดศรีนคราคม พบชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นลายทหาร นอนห่มผ้าสีเขียวคล้ายของโรงพยาบาล จึงได้เข้าไปสอบถาม
เบื้องต้นชายคนดังกล่าวคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดวกไปวนมา และจากการตรวจสอบร่างกายโดยคร่าวๆ พบร่องรอยแผลเก่าบริเวณกะโหลกศีรษะด้านซ้ายยุบเหมือนถูกรถชนมา ส่วนขาซ้ายก็เจ็บเดินไม่สะดวก และจากสำเนียงการพูดเหมือนคนทางภาคเหนือหรือภาคกลาง
นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าและเอกสารใบนัดหมอของโรงพยาบาลกุมภวาปี จ.อุดรธานี ระบุชื่อคนไข้คือ นายสุภพ เมฆสูงเนิน วันที่นัด ลงวันที่ 13 พ.ย. 61 และมีรายชื่อหมอที่นัด และเจ้าหน้าที่ลงบันทึก
นายเฉลิมศักดิ์ อินทร์หา ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.กุมภวาปี เปิดเผยว่า จากการสอบถามบุคคลที่มาทำบุญในวัดเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ทราบว่าเห็นรถรีเฟอร์ของโรงพยาบาลกุมภวาปีนำมาปล่อยไว้ในวัด จึงรีบแจ้งทางอำเภอให้ทราบ ขณะเดียวกันทางเราได้พยายามพูดคุยสอบถามชายคนดังกล่าวทราบว่าได้นอนป่วยที่โรงพยาบาลกุมภวาปี โดยมีบัตรการเข้ารักษาตัว และวันนี้ทางโรงพยาบาลกุมภวาปีได้นำมาไว้ที่วัดเนื่องจากไม่มีญาติมารับและดูแล
“คาดว่าผู้ป่วยรายนี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกุมภวาปี แต่ไม่มีญาติมายืนยันการรักษา และทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสอบถามผู้ป่วยแล้วอาจจะคุยไม่รู้เรื่อง ทางโรงพยาบาลจึงได้นำใส่รถมาปล่อยไว้ที่วัด”
รายงานเพิ่มเติมแจ้งว่า ขณะนี้นายเฉลิมศักดิ์ได้มอบเสื้อผ้าพร้อมอาหารช่วยเหลือในเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยชายคนดังกล่าวแล้ว และได้ประสานเจ้าอาวาสเพื่อให้ผู้ป่วยรายนี้ได้พักอาศัยที่วัดก่อน และจะได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานีเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
