ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ร่วมกับ สทบ.ตรวจสอบและเก็บกากกัมมันตรังสีออกจากพื้นที่ ทลฉ. หลังศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยี สทบ. ตรวจพบสารปนเปื้อนในตู้สินค้าขาออก ของบริษัทอาฟเตอร์เม็ท สแตนเลส สตีล แอน เมทัล รีไซคลิ่ง จำกัด
เรือโทยุทธนา โมกขาว รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เผยว่า ทางท่าเรือแหลมฉบัง ได้รับแจ้งจากศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยี สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ตรวจพบสารปนเปื้อนในตู้สินค้าขาออก ของบริษัทอาฟเตอร์เม็ท สแตนเลส สตีล แอน เมทัล รีไซคลิ่ง จำกัด จึงนำมาเก็บไว้ในบริเวณที่จัดเตรียมไว้ ด้านข้างอาคารแผนกช่างกล ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการจัดเตรียมไว้ตามแผน (safety zone) ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง
ทั้งนี้ ทางศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยี สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้แจ้งไปยังสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ ให้มาทำการตรวจสอบและจัดเก็บกากกัมมันตรังสีออกจากพื้นที่ ซึ่งมีกำหนดปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 8-9 พ.ย.61 โดยในวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางสถาบัน และสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบ และเตรียมนำออกจากพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จ ขณะนี้ได้มีการกำหนดเขตปลอดภัยเพื่อป้องกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณดังกล่าวแล้ว
เรือโทยุทธนา เผยต่อว่า ทางท่าเรือแหลมฉบัง ได้จัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวก และกำหนดพื้นที่ปลอดภัยร่วมกับทุกหน่วยงานเพื่อให้การทำงานเป็นอย่างเรียบร้อย โดยในวันนี้ (10 พ.ย.) ได้มีทีมปฏิบัติงานเพื่อดำเนินการตรวจสอบและเก็บกากกัมมันตรังสีออกจากพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังต่อเนื่อง จนกว่าจะแล้วเสร็จ
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. การดำเนินการกู้เก็บกากสารกัมมันตรังสี โดยสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เรียบร้อยเป็นไปด้วยดี โดยทางท่าเรือแหลมฉบัง ในฐานะเจ้าของพื้นที่ได้อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานดังกล่าว
อนึ่ง กากกัมมันตรังสี เป็นของเสียที่ประกอบด้วยสารกัมมันตรังสี ส่วนใหญ่เป็นผลพลอยได้ของการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานนิวเคลียร์ และการใช้งานอื่นๆ จากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน หรือเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เช่น การวิจัยนิวเคลียร์และการแพทย์นิวเคลียร์ กากกัมมันตรังสีเป็นอันตรายต่อสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งแวดล้อม และถูกกำกับดูแลโดยหน่วยงานภาครัฐในการที่จะปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
