ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ญาติครูอนุบาลดังเชียงใหม่ที่ถูกเก๋งซิ่งชนเสียชีวิตยื่นหลักฐานให้ ตร. ยันชัดมีการสลับตัวผู้ต้องหาในที่เกิดเหตุ โดยล่าสุดผู้ก่อเหตุไปงานศพพร้อมยอมรับว่าให้พ่อสมอ้างรับผิดแทน ขณะที่ ตร.ขอ 2-3 วันเคลียร์ให้ถูก
ความคืบหน้ากรณีที่โซเชียลมีเดียแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์รถเก๋งขับแซงบนถนนแคบด้วยความเร็วสูงชนรถจักรยานยนต์ที่กำลังจะเลี้ยวเข้าซอยเป็นเหตุให้ นางฐานินทรา ฉ่ำชื่น ครูโรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิตวิทยา เสียชีวิต และลูกอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ บนถนนสายป่าตัน-บ้านท่อ ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยต่อมาทราบว่านางฐานินทราเป็นแม่ที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงดูลูก 3 คน และตัวเองยังป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ด้วย และหลังจากที่เกิดเหตุมีการนำเสนอข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินคดีต่อผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 60 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นคนขับรถเก๋ง และยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณจุดเกิดเหตุ
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับคนขับรถเก๋งคันที่เกิดเหตุว่า ผู้ชายอายุประมาณ 60 ปีที่รอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและถูกดำเนินคดีนั้นที่จริงแล้วเป็นคนขับรถเก๋งคันดังกล่าวจริงหรือไม่ และมีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาหรือไม่ เนื่องจากหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง รวมทั้งพยานที่เห็นเหตุการณ์ต่างยืนยันว่าในช่วงที่เกิดเหตุนั้นคนขับรถเก๋งที่เกิดเหตุได้จอดรถห่างจากจุดที่ชนแล้วเดินกลับมาดู พร้อมแสดงอาการตกใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่ผู้ชายคนดังกล่าวเป็นผู้ชายวัยกลางคนสวมใส่เสื้อสีเข้ม กางเกงขาสั้น และสวมใส่รองเท้าผ้าใบ ซึ่งขับรถออกไปก่อนที่ตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุ แล้วมีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่สูงอายุมากกว่า สวมใส่เสื้อลายขวางสีแดงขาว ยืนรอให้การตำรวจ
ล่าสุดช่วงเย็นวานนี้ (6 พ.ย. 61) นางสาวชญาดา เครือซุง หลานสาวของผู้เสียชีวิต พร้อมญาติ ได้นำหลักฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เพื่อยืนยันว่าน่าจะมีการสลับตัวคนขับรถเก๋งที่ขับชนจนเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งยอมรับว่าในวันเกิดเหตุตำรวจได้นำตัวนายจรัญ เอกโสวรรณ อายุ 66 ปี ที่อ้างตัวว่าเป็นคนขับรถไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่จุดเกิดเหตุ และประกอบกับเป็นช่วงชุลมุนจึงอาจจะเกิดความคลาดเคลื่อน โดยจากนี้หากพบหลักฐานว่ามีการสลับตัวผู้ต้องหาจะมีการติดตามหาตัวคนขับที่แท้จริงมาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งทางญาติระบุว่าเป็นลูกชายของนายจรัญนั่นเอง
ญาติของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ (6 พ.ย. 61) ครอบครัวของคนขับรถได้เดินทางไปพบญาติ โดยนำเงินไปมอบให้ช่วยค่าทำศพเพิ่มเติมอีก 1 หมื่นบาท จากก่อนหน้านี้มอบไปให้ 4 หมื่นบาท รวมเป็น 5 หมื่นบาท ซึ่งการพูดคุยกับญาติในช่วงแรกบอกว่าพ่อคือนายจรัญ เอกโสวรรณ เป็นคนขับ แต่พอมีการกันคนที่ไม่ใช่ญาติออกไปก็มีการยอมรับว่าคนขับตัวจริงคือลูกชาย ซึ่งอ้างบอกว่าไม่มีใบขับขี่ และกลับจากงานเลี้ยง กลัวโทษหนัก พร้อมอ้างว่าหากยอมรับเช่นนั้นทางญาติจะไม่ได้รับการชดเชยจากประกัน และ พ.ร.บ.คุ้มครอง จึงต้องให้พ่อรับสมอ้างแทน แต่ยังไม่ได้เข้าให้ปากคำต่อตำรวจ
นอกจากนี้ ทางญาติบอกด้วยว่า ะยังรอให้ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาตัวจริงมาดำเนินคดีให้ได้ก่อน ซึ่งอาจจะไม่เผาศพผู้ตายจนกว่าจะได้ผู้ต้องหาตัวจริง พร้อมกับมอบคลิปภาพให้ร้อยเวรเจ้าของคดี ซึ่งบอกว่าขอเวลาอีก 2-3 วันจะเรียกผู้ที่ถูกกล่าวหามาให้การเพิ่มเติม หากพบว่ามีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาก็จะมีความผิดหนักทั้งคู่ โดยคนที่สมอ้างก็จะเจอข้อหาแจ้งความเท็จ ส่วนคนขับตัวจริงก็จะเจอข้อหาชนแล้วหนี และขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต