จันทบุรี - เผย “เกาะจิกรีสอร์ท” ก่อสร้างโดยไม่ขออนุญาต หลังเจ้าท่าจันทบุรี พบไม่มีการขออนุญาตดำเนินการ เตรียมรายงาน ผวจ.เอาผิดฐานรุกป่า ขณะที่ ทช.ระยอง ชี้ภาพถ่ายดาวเทียมระบุมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
จากกรณีที่ นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณเกาะจิกรีสอร์ท ม.1 บ้านเกาะจิก ต.บางชั้น อ.ขลุง จ.จันทบุรี หลังมีผู้ร้องเรียนผ่านสังคมออนไลน์ว่า รีสอร์ตดังกล่าวปลูกสร้างรุกพื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งจากการเดินสำรวจโดยรอบบริเวณพบว่า มีบ้านพักรวมทั้งหมด 15 หลัง โดยเป็นการก่อสร้างบนบก 6 หลัง และในทะเล 9 หลัง นอกจากนั้น ยังพบว่ามีการสร้างสะพานคอนกรีตยาวประมาณ 50 เมตร และห้องอาหารขนาดใหญ่อีก 1 หลัง ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่สามารถฟันธงได้ว่ารีสอร์ตแห่งนี้ผิดจริงตามข้อร้องเรียนหรือไม่นั้น
ล่าสุด วันนี้ (5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายประสงค์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาจันทบุรี ว่ายังไม่ได้รับการติดต่อจาก นายณรงค์ หงส์บิน ซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ต และยังไม่มีการนำเอกสารเรื่องการขออนุญาตปลูกสร้างรีสอร์ตมาแสดงแต่อย่างใด โดยได้รับการชี้แจงจากผู้ดูแลรีสอร์ตเพียงว่า เจ้าของรีสอร์ตอยู่ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบอย่างละเอียดของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาจันทบุรี ไม่พบว่ารีสอร์ตแห่งนี้มีการขออนุญาตดำเนินการแต่ประการใด และหากยึดจากคำสั่ง คสช.ที่ได้ประกาศให้ผู้ที่ปลูกสร้างอาคาร หรือบ้านเรือนในทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนปี 2560 ต้องดำเนินการขออนุญาตให้เรียบร้อย
“แต่ปรากฏว่า นายณรงค์ หงส์บิน ไม่มีการขออนุญาตดำเนินการ ซึ่งจะมีความผิดฐานปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างลงทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาต และสำนักงานเจ้าท่าฯ จะได้ทำรายงานเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเพี่อให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” นายประสงค์ กล่าว
ขณะที่ นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (จ.ระยอง) กล่าวถึงการตรวจสอบพิกัดการก่อสร้าง รีสอร์ตในพื้นที่ ม.1 บ้านเกาะจิก ต.บางชั้น อ.ขลุง ว่า เป็นการปลูกสร้างในพื้นที่ป่าบางส่วน ซึ่งขณะนี้สำนักงานฯ ได้ทำการตรวจสอบภาพถ่ายจากดาวเทียมและ GPS พบว่า ผู้ประกอบการรายนี้มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้มอบหมายให้ตรวจสอบแล้ว ซึ่งหากมีความผิดจริงก็จะดำเนินการจับกุมและส่งฟ้องศาลเพื่อให้มีคำสั่งดำเนินการรื้อถอนต่อไป
