แพร่ - สหพันเกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ออกแถลงการณ์ประนามกลุ่มผู้ก่อการขับไล่พระนักพัฒนารักษาการเจ้าอาวาสวัดปางมะโอ ฐานละเมิดกฎหมายและสิทธิมนุษย์ชน ด้านชาวบ้านกลุ่มปกป้องพระร้องขอให้กลับมารับกฐินตามเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ ถึงกรณีเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมามีชาวบ้านปางมะโอกลุ่มหนึ่งเป็นชายฉกรรจ์มีอาการเมาสุราบุกเข้าขับไล่พระฐาปนพงษ์ฐานิสโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดปางมะโอ ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ จนเกิดการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มขับไล่กับกลุ่มปกป้องพระนักพัฒนารายนี้จนเกิดความตรึงเครียดจนต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ และ อส.เข้าคุมสถานการณ์
โดยมีพระครูวิจิตรธรรมสาทก เจ้าคณะอำเภอวังชิ้น จ.แพร่ เข้ามาทำหน้าที่ไกลเกลี่ยข้อพิพาท เพื่อความปลอดภัยของรักษาการเจ้าอาวาส จึงให้นำรักษาการเจ้าอาวาสออกจากวัดไป แต่จะต้องมารับกฐินในวันที่ 16 พฤศจิกายน โดยให้พระฐาปนพงษ์ฐานิสโรไปจำวัดที่วัดปางงุ้น ต.สรอย อ.ว้งชิ้น จ.แพร่ ห่างจากวัดปางมะโอไปทางใต้ของ อ.วังชิ้น 20 กม.
ล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ยอมยุติ แถมประกาศไม่ให้พระเข้ามาในวัดอีกต่อไป เป็นการกระทำที่ผิดข้อตกลงกับเจ้าคณะอำเภอเป็นรอบที่ 2 ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีข้อตกลงร่วมกันทั้งผู้ใหญ่บ้านที่เป็นผู้นำชุมนุมคัดค้านไม่ให้พระนักพัฒนารายนี้ได้ร้องเรียนข้อหาหลายเรื่องให้เจ้าคณะอำเภอวังชิ้นเป็นผู้สอบสวน แต่ปรากฏว่าข้อหาดังกล่าวไม่มีมูลและไม่มีหลักฐานใดๆ และเพื่อความสงบสุขได้ขอให้พระฐาปนพงษ์ฐานิสโรอย่าได้ฟ้องกลับ เรื่องจึงยุติ แต่ทางกลุ่มผู้ใหญ่บ้านกลับมาเริ่มชุมนุมคัดค้านอีก
อย่างไรก็ตาม สหพันเกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ได้ติดตามปัญหาของเกษตรกรในด้านการถือครองที่ดินและการปลูกสวนป่าไม้สักที่ไม่สามารถตัดจำหน่ายได้ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งถูกกลุ่มคนมีอำนาจในชุมชนฉวยโอกาสซื้อไม้ชาวบ้านในราคาต่ำมาก จนพระฐาปนพงษ์ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือร่วมกับทางราชการและเครือข่ายที่ดินภาคเหนือร่วมกันทำงานจนปัญหากำลังได้รับการแก้ไข แต่กลุ่มทุนและกลุ่มอำนาจไม่ต้องการแก้ไขเพื่อเก็บผลประโยชน์แบบผิดกฎหมายกับเกษตรกร นำไปสู่การลอบยิงพระมาก่อนหน้าแล้วครั้งหนึ่ง สกน.จึงต้องออกแถลงการณ์ประฌามการกระทำดังกล่าวและขอให้ฝ่ายบ้านเมืองดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำรุนแรงละเมิดผู้อื่น ส่วน สกน.จะส่งผู้แทนเข้าหารือกับรัฐบาลเพื่อหาทางแก้ไขต่อไปถ้าจังหวัดยังไม่ดำเนินการใดๆ
