ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-คืบคดีอาจารย์หนุ่มแอบถ่ายใต้กระโปรง ตำรวจเชียงใหม่เตรียมทำหนังสือถึง ม.ชื่อดังขอไอแพดที่ใช้ก่อเหตุและมีคลิปหลักฐานอยู่ในเครื่อง เนื่องจากผู้บริหารยังเก็บไว้ไม่ได้ส่งให้ และเตรียมเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหาเข้าให้ปากคำ
ความคืบหน้ากรณีที่นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมตัวกันเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.61 เพื่อให้ดำเนินคดีกับอาจารย์หนุ่มคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี สอนวิชาภาษาไทยของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยดังกล่าว ที่แอบตั้งกล้องไอแพดแอบถ่ายใต้กระโปรงของบรรดานักศึกษาสาวในชั้นเรียน โดยทำทีเป็นวางไว้กับพื้นใกล้โต๊ะที่อาจารย์นั่งสอนในชั้นเรียนแล้วให้นักศึกษามาเขียนลงชื่อเข้าเรียน ซึ่งนักศึกษาสงสัยในพฤติกรรมมาตั้งแต่เริ่มเข้าชั้นเรียนเมื่อเดือนสิงหา 2561 จนกระทั่งมีการพูดคุยหารือกันและวางแผนจับผิด จนได้หลักฐานเป็นไอแพดที่ใช้ก่อเหตุและคลิปแอบถ่ายใต้กระโปรงนักศึกษาสาว เมื่อวันที่ 1 พ.ย.61
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเตรียมทำหนังสือขอไอแพดที่ใช้ก่อเหตุและมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอแอบถ่ายอยู่ในเครื่องมาจากทางผู้บริหารของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยดังกล่าว ที่ยังเก็บไว้หลังจากที่นักศึกษานำไปมอบให้ แต่ทางผู้บริหารยังไม่มีการส่งมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นอกจากนี้เตรียมจะเชิญตัวอาจารย์หนุ่มที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำด้วย แต่เบื้องต้นต้องรอไอแพดดังกล่าวที่เป็นหลักฐานของกลางสำคัญในคดีนี้จากทางมหาวิทยาลัยเสียก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะทำหนังสือถึงมหาวิทยาลัยในวันที่ 5 พ.ย.61 และจะมีการเชิญตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย
สำหรับนักศึกษาสาวที่ตกเป็นผู้เสียหายถูกแอบถ่ายใต้กระโปรงนั้น นอกจากนักศึกษาสาวชั้นปีที่ 1 จำนวน 3 คนที่เข้าแจ้งความแล้ว รายงานข่าวแจ้งว่ายังคงมีนักศึกษาสาวอีกจำนวนหนึ่งที่เชื่อว่าตัวเองน่าจะตกเป็นผู้เสียหายจากการกระทำของอาจารย์หนุ่มคนเดียวกันนี้ เพราะอาจารย์มีพฤติกรรมวางไอแพดไว้กับพื้นอย่างนี้มานานแล้ว
อย่างไรก็ตามยังไม่ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากยังไม่มั่นใจว่าทางมหาวิทยาลัยจะมีทีท่าอย่างไรกับกรณีที่เกิดขึ้นกันแน่ เพราะมีแต่เพียงการทำคลิปวิดีโอชี้แจงสั้นๆ ว่าอาจารย์หนุ่มที่ก่อเหตุได้ชิงลาออกไปก่อนแล้วและบอกว่าไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ตั้งแต่ที่ได้รับหลักฐานการกระทำความผิดของอาจารย์หนุ่มคนดังกล่าวทางมหาวิทยาลัยกลับไม่มีการส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันทีหรือโดยเร็วตั้งแต่แรก ทั้งที่ควรจะเป็นตัวตั้งตัวตีให้การปกป้องนักศึกษาที่เป็นผู้เสียหายมากกว่านี้.