จับแล้วโจ๋มือใช้มีดหั่นผักฟันช่างทาสีนิ้วขาด หลังหนีกบดานที่กรุงเทพฯ

อุบลราชธานี - ตำรวจนำหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานีคุมตัววัยรุ่นที่เป็นมือมีดฟันหนุ่มช่างทาสีจนนิ้วขาดขณะย้อนกลับบ้านเกิดเช้านี้ สารภาพใช้มีดหั่นผักฟันคนเจ็บจริงแล้วหนีไปกบดานอยู่ที่กรุงเทพฯ

จากกรณีเกิดเหตุวัยรุ่นรุมทำร้ายช่างทาสีวัย 37 ปี ขณะขี่รถจักรยานยนต์พาลูกสาววัย 7 ขวบกลับจากไปหาซื้อปลามาทำกินช่วงบ่ายวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ช่างทาสีถูกฟันด้วยมีดสปาต้ายาว 10 นิ้ว นิ้วกลางกับนิ้วก้อยขาดไป 1 ข้อ และคมมีดยังไปถูกศีรษะด้านซ้ายเป็นแผลยาวต้องเย็บกว่า 20 เข็ม

ส่วนลูกสาวก็โดนลูกหลงถูกเตะถูกแก้มซ้ายบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณริมถนนบ้านจั่น ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ออกหมายจับตัว 3 วัยรุ่นที่ก่อเหตุตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (27 ต.ค.) พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก.สืบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นำกำลังเข้าจับกุมนายเอกพันธ์ หรือโอเล่ สิมมารัตน์ อายุ 24 ปี ชาวบ้านพงสว่าง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ลงวันที่ 25 ต.ค. 61 ข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส และร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

นายเอกพันธ์รับสารภาพว่าเป็นคนใช้มีดปลายแหลมใช้หั่นผักยาวประมาณ 7-8 นิ้ว ฟันนายปราโมทย์คนเจ็บจริง โดยในวันเกิดเหตุได้ร่วมกับกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านจั่น บ้านนาสะแบง ซึ่งรู้จักกันตั้งวงดื่มเหล้าอยู่ริมถนนใกล้ทางข้ามรถไฟในหมู่บ้านจั่น ระหว่างนั้น นายปราโมทย์คนเจ็บขี่รถจักรยานยนต์มากับลูกสาว และผ่านมายังจุดที่กลุ่มของตนตั้งวงกินเหล้ากันอยู่

เพื่อนในกลุ่มของตนที่เคยมีเรื่องกับนายปราโมทย์มาก่อนได้ตะโกนด่าคนเจ็บและนายปราโมทย์ได้ตะโกนด่ากลับมา พวกตนที่มีอาการมึนเมาสุราจึงพากันวิ่งกรูเข้าทำร้ายนายปราโมทย์จนทำให้รถของคนเจ็บล้มลง และนายปราโมทย์ได้พยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในร้านขายของชำที่อยู่ใกล้เคียง นายเอกพันธ์ก็ได้คว้าเอามีดปลายแหลมที่เพื่อนเอามาใช้หั่นผักทำกับแกล้มวิ่งตามเข้าไปฟันนายปราโมทย์ 1 ครั้ง ถูกมือจนนิ้วขาดและไปโดนศีรษะ

หลังจากนั้น นายสีหา ปาทานนท์ เจ้าของร้านขายของชำและเป็นผู้ใหญ่บ้านจั่นได้วิ่งออกมาห้ามปราม พร้อมไล่พวกตนออกไปจากร้าน จึงพากันวิ่งหลบหนีออกมา ส่วนนายเอกพันธ์ได้กระโดดขึ้นรถจักรยานยนต์ของนายต๊อก เพื่อนอีกคนที่ขับมารับ นำมีดไปโยนทิ้งลงในหนองน้ำสาธารณะหลังหมู่บ้านพงสว่าง และหนีไปหลับนอนอยู่ในป่าหลังหมู่บ้านจนถึงเช้า

เมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมตัวกลุ่มตนที่ก่อเหตุทำร้ายนายปราโมทย์จึงตัดสินใจหลบหนีเข้าไปหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ ส่วนนายคัมภีร์ หรือหลอน อินทรเทพ อายุ 23 ปี และนายบิว (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ได้แยกตัวหลบหนีไปอยู่แถวภาคตะวันออก

กระทั่งได้รับการติดต่อจากญาติผู้ใหญ่ให้เข้ามอบตัวจึงเดินทางกลับมาบ้านในเช้าวันนี้ และถูกชุดสืบสวนเข้าจับกุมไว้ได้ พร้อมนำตัวไปชี้จุดที่นำมีดที่ใช้เป็นอาวุธไปทิ้งในหนองน้ำ ก่อนนำตัวเข้าห้องควบคุมรอการดำเนินคดี

พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก.สืบสวน สภ.วารินชำราบ กล่าวว่า สำหรับวัยรุ่นอีก 2 คนที่ยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการประสานแจ้งให้รีบเข้ามามอบตัว เพราะหนึ่งในสองคนยังเป็นเยาวชนจะได้รับความเมตตาจากศาล หากยังหลบหนีจะทำให้เสียอนาคตเพราะต้องหนีคดีเป็นเวลานานถึง 15 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับอาการบาดเจ็บของนายปราโมทย์เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ยังคงต้องนอนพักรักษาตัวจากบาดแผลที่ถูกมีดฟันจนนิ้วขาดที่โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์จนกว่าจะหายดี