เลย - สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเมืองเลยแจงเงินออมสมาชิกสหกรณ์ฯ เป็นศูนย์เพราะขาดทุนหุ้นลอตเตอรี่ ชี้สมาชิกรู้ดีเงินลงหุ้นกับสหกรณ์เท่ากับร่วมลงทุนค้าลอตเตอรี่ เมื่อราคาหุ้นเป็นศูนย์ต้องยอมรับสภาพร่วมกัน สหกรณ์ฯ ช่วยอะไรไม่ได้
จากกรณีมีตัวแทนครูเกษียณเข้าร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางจังหวัดเลย เนื่องจากรับราชการมาได้เก็บเงินออมและถูกหักเงินเดือนทุกเดือนในระหว่างรับราชการ โดยฝากเงินไว้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู แต่หลังเกษียณตั้งใจจะนำเงินที่เก็บออมในรูปของเงินหุ้นในสหกรณ์นำมาหักเงินที่เคยกู้ไปเพื่อหักกลบลบหนี้
ปรากฏว่าผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ แจ้งว่าเงินที่ลงหุ้นหรือเงินออมกลายเป็นศูนย์ ทั้งๆ ถูกหักเงินเดือนไปทุกเดือน ถือเป็นปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์กว่า 1,000 คน
โดยเฉพาะข้าราชการเกษียณ เงินเดือนลด (เงินบำนาญ) แต่ยังถูกหักเงินที่เคยกู้อีก ทำให้รายรับไม่พอใช้จ่าย บางรายต้องกู้เงินนอกระบบมาใช้ให้พอเดือนชนเดือน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ว่าที่ ร.ท.ยุทธชาติ ไชยบุตร ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกรมสามัญศึกษาจังหวัดเลย ว่า จากปัญหาที่สะสมมาตั้งแต่ปี 2553 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกรมสามัญได้ไปทำสัญญาโครงการสลากลอตเตอรี่ มีโครงการที่ 1 มีมูลค่าการลงทุน 445 ล้านบาท และโครงการที่ 2 มีมูลค่า 365 ล้านบาท โครงการที่ 3 มูลค่าลงทุน 445 ล้านบาท
แต่หลังจากได้มีการระดมทุนค้าขายลอตเตอรี่ได้สักพัก ปรากฏว่านายทะเบียนเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้ระงับโครงการดังกล่าวเพราะวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ออมทรัพย์ไม่สามารถจะค้าขายได้ และผิด พ.ร.บ.สหกรณ์ 2542 แต่ที่ประชุมใหญ่ของสมาชิกในปี 2553 มีมติให้ค้าสลากจำหน่ายเป็นสวัสดิการให้แก่สมาชิก พอเกิดกรณีผิด พ.ร.บ. บริษัทคู่ค้าไม่ยอมส่งลอตเตอรี่ให้กับสหกรณ์ โดยในกรณีนี้ทางสหกรณ์ได้ฟ้องบริษัทคู่ค้า และชนะคดีมาแล้ว มูลค่าเสียหาย 1,200 ล้านบาท
จึงทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกรมสามัญขาดทุนเกือบ 2 เท่าของมูลค่าหุ้นในสหกรณ์ จึงเป็นตัวชี้วัดว่าหุ้นของสหกรณ์ไม่มีมูลค่า และติดลบมาตลอด
ในส่วนของเรื่องสมาชิกที่นำเงินมาลงหุ้นกับสหกรณ์ และในที่ประชุมก็มีมติว่าจะนำเงินไปลงทุนค้าลอตเตอรี่ ต่างยกมือเห็นด้วย ทุกวันนี้เสมือนว่าเงินที่ซื้อหุ้นของสหกรณ์เป็นการลงทุน และขาดทุนด้วยกัน ราคาหุ้นที่มีจึงเป็นศูนย์ สหกรณ์ก็ช่วยเหลือไม่ได้เพราะถือว่าเป็นการลงทุน สหกรณ์เองก็ต้องฟื้นฟูตัวเอง
ในส่วนสมาชิกที่เกษียณไปแล้ว และยังมีหนี้ค้างอยู่กับสหกรณ์ ขอให้ลดการหักเงินเดือนให้น้อยลง ซึ่งในกรณีนี้ต้องไปตามข้อบังคับของสหกรณ์ ได้กำหนดว่าจะต้องมีหุ้นเกิน 3 แสนบาทและไม่มีหนี้ค้างกับสหกรณ์ จะไม่ส่งกับสหกรณ์เลยก็ได้ แต่ถ้าที่มีหุ้นอยู่ 3 แสนและมีหนี้ค้างสหกรณ์ก็ต้องจ่ายตามข้อบังคับจะให้ลดลงไม่ได้