ฉะเชิงเทรา- คลี่คลาย ข้อพิพาทชาวบ้านโยธะกา ทัพเรือ เรื่องที่ดิน 4 พันไร่ หลังฝ่ายบริหารลงพื้นที่ทำความเข้าใจหากจำเป็นจะต้องใช้พื้นที่ก็เพื่อความมั่นคงเท่านั้น ยันยังไม่ไล่ที่ และไม่มีเอกชนเอี่ยวพัฒนาโครงการรับอีอีซี
จากกรณีปัญหาข้อพิพาทที่ดินราชพัสดุ จำนวน 4 พันไร่ ในพื้นที่ ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างกองทัพเรือ ที่มีกระแสข่าวจะเข้ามายึดพื้นที่ซึ่งเป็นที่ดินทำกินของชาวบ้านในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน และที่พักอาศัยของชาวบ้าน จำนวน 166 ครอบครัว เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารสำหรับพัฒนาหน่วยงานทหาร และยังมีกระแสข่าวการเตรียมที่จะปล่อยพื้นที่ให้กลุ่มทุนใหญ่สร้างนิคมอุตสาหกรรมรับโครงการอีอีซี จนเกิดความไม่พอใจอย่างหนักของกลุ่มชาวบ้าน จนมีการจัดตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านภายใต้ชื่อ “กลุ่มโยธะการักษ์ถิ่น” รวมทั้งเรียกร้องให้กองทัพเรือ เข้ามาชี้แจงถึงความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (24 ต.ค.) พล.ต.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ได้นำคณะนายทหารเรือ และผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พล.ร.ท.เสรีภาพ สุขเจริญ ประธานคณะกรรมการที่ดินกองทัพเรือ พล.ร.ต.ธีรยุทธ นอบน้อม ผู้บังคับการฐานทัพเรือกรุงเทพ และ พล.ต.พณิชย์ ศิริพละ รอง ผอ.กอ.รมน.จ.ฉะเชิงเทรา ได้เดินทางลงพื้นที่ ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อพบปะ และทำความเข้าใจกับชาวบ้านโยธะกา
นอกจากนั้น ยังมี นายประเทือง อยู่เกษม นายอำเภอบางน้ำเปรี้ยว นายวราห์ เขินประติยุทธ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา นายภูริต กุศลผลบุญ ธนารักษ์จังหวัดฉะเชิงเทรา นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านในครั้งนี้ด้วย
โดย พล.ร.ต.ธีรยุทธ ได้กล่าวยืนยันกับชาวบ้านกลางที่ประชุม ว่า กองทัพเรือจะไม่มีการขับไล่ชาวบ้านให้ออกไปจากพื้นที่อย่างแน่นอน ที่สำคัญกองทัพเรือจะนำปัญหาที่เกิดขึ้นจากการรับฟังข้อมูลของชาวบ้านกลับไปหารือกับหน่วยที่จะเข้ามาใช้พื้นที่โดยตรง เพื่อพิจารณาใช้พื้นที่เท่าที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชาวบ้าน
“หากมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ หรือหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็จะต้องมีการ พิจารณาจัดสรรที่ดินให้แก่ราษฎรได้เช่าอยู่อาศัย และทำกินตามความเหมาะสมตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งระเบียบขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะพิจารณาชดเชยเยียวยาให้แก่ชาวบ้านให้ได้มีที่ดินทำกิน และมีที่อยู่อาศัย ซึ่งจะนำข้อมูลเดิมจากการเช่าที่ดินในอดีตของชาวบ้านจากกรมธนารักษ์ กลับไปพิจารณาด้วย อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่า ที่ดินที่กองทัพเรือจะเข้ามาใช้ประโยชน์ จะนำไปใช้ด้านความมั่นคงเท่านั้น โดยไม่มีการนำไปจัดสรรให้แก่บริษัทเอกชน หรือมีความเกี่ยวข้องใดๆ เกี่ยวกับโครงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี”
พล.ร.ต.ธีรยุทธ ยังกล่าวอีกว่า การดำเนินการของทางกองทัพเรือ ยังมีขั้นตอนอีกมากในการนำเสนอโครงการเพื่อขอรับเงินงบประมาณสนับสนุนจากทางรัฐบาลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาทางทหาร ซึ่งคาดว่ายังคงต้องใช้ระยะเวลาอีกนานนับปี โดยจะยังไม่ได้มีการโยกย้าย หรือขอคืนพื้นที่ของชาวบ้านในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
สำหรับการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจในวันนี้ ได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยได้มีโอกาสสอบถามข้อสงสัยอย่างกว้างขวาง โดยมีการตอบข้อข้องใจจากหน่วยงานเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน ตลอดจนยังคงเปิดโอกาสให้กลุ่มเอ็นจีโอ และสื่อมวลชน ได้เข้ามามีส่วนร่วม ท่ามกลางบรรยากาศความเข้าใจที่มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยชาวบ้านส่วนใหญ่พอใจในคำตอบที่ได้รับจากฝ่ายทหารเรือ ก่อนจะเลิกประชุมในเวลา 16.30 น.
