นครปฐม - คุมตัว เอกชิน ผู้ต้องหาทำร้ายลูกชายเจ้าของร้านข้าวต้ม ส่งฝากขังศาลแล้ววันนี้ ขณะแม่ลูกย้ำเคยรอเจรจาแล้วแต่เจ้าตัวหายไป 2 เดือน
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่ สภ.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พ.ต.อ.ศุภเกียรติ เทิดตระกูล ผกก.สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว นายพัศพงษ์ อู่ตะเภา อายุ 39 ปี หรือเอกชิน ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่า ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และพกพาปืนเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง ทางสาธารรณะ หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การเข้าพบพนักงานสอบสวน เป็นเหตุจากการที่ถูกออกหมายเรียกให้มาพบและรับทราบข้อกล่าวหา จากกรณีที่ นายพัศพงษ์ หรือเอกชิน ได้ปรากฏในคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิด ว่าเกิดมีเรื่องกับ นายนันทวัฒน์ หรือเวย์ อ่อนศิริ อายุ 19 ปี ลูกชายของ นางสุนันท์ อ่อนศิริ อายุ 38 ปี หรือเจ๊นัน เจ้าของร้านข้าวต้มหน้าตลาดคุณาวรรณ และได้ชักอาวุธปืนยิงก่อนจะตบ และมีพรรคพวกที่นั่งอยู่ด้วยชักปืน และสลับกันเข้าเตะใบหน้า จนทำให้ นายนันทวัฒน์ หรือเวย์ ได้รับบาดเจ็บแขนหักและผิดรูป และได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนจะขอวางเงินสด 1 แสนบาท เพื่อประกันตัวในชั้นสอบสวนและกลับมาให้พนักงานสอบสวนส่งตัวดังกล่าว
ซึ่งขณะนี้ได้มี นายจักรินทร์ หรือจักร ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน หลังถูกแจ้งข้อหาพกพาปืนเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง ทางสาธารรณะ หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร และได้เข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย คือ นายเก่งกล้า พรหมชาติ อายุ 30 ปี หรือเบ๊นซ์ อยู่บ้านเลขที่ 104 ม.5 ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ.นครปฐม ขณะนี้ถูกจับกุมในข้อหายาเสพติด เมื่อปลายเดือน กันยายนที่ผ่านมา และยังถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำกลางนครปฐม นายสหรัฐ หรือไมค์ อยู่บ้านเลขที่ 111/3 ม.6 ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งพบว่ามีหมายจับกุมของชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม ในคดียาเสพติด
ขณะที่ นางสุนันท์ อ่อนศิริ หรือเจ๊นันท์ อายุ 38 ปี มารดาของนายเวย์ เผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการในการติดตามตัวทุกคนมาแล้ว ซึ่งยังไม่สบายใจเพราะเขามีพรรคพวกมาก และมีการโพสต์เฟซบุ๊กเหมือนจะไม่ยอม ตนเองคนเป็นแม่บอกได้เลยว่าลูกไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าวแบบนั้น แต่ยอมรับว่าถ้าลูกประพฤติตัวไม่เหมาะสมเขาก็น่าจะบอกกันได้ หรือจะตบหัวสัก 2-3 ทีก็น่าจะยอมรับได้ แต่ไม่มีสิทธิมายิง มารุมเตะกันแบบนี้
ส่วนในเรื่องเงิน 2 แสนบาท ที่ทาง นายพัศพงษ์ หรือเอกชิน ได้บอกว่าทางเราเรียกไปนั้น จริงๆ คือเป็นประเด็นหลังจากมีการเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมไปแล้ว ซึ่งทางคนที่อยู่ในเหตุการณ์มีการเข้ามาสอบถาม ว่าจะมีการเจรจาหรือไม่ ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่อยากให้เป็นเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลก็ได้ให้พ่อของน้องเวย์ ไปคุย ซึ่งได้คำนวณเรื่องค่ารักษาและการไม่ได้ทำงาน ได้บอกไปแต่ทางนั้นเงียบไป ไม่มีการเข้ามาพูดคุยนาน 2 เดือน จึงต้องออกมาร้องผ่านสื่อเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และที่ทางนั้นบอกว่าเราไปขอโทษเขาก่อนก็ไม่จริงเพราะลูกเราไม่ผิด โดยปกติตนเองเลี้ยงลูกก็บอกว่าอย่าไปหยิ่งกับลูกค้าเพราะเขาเอาเงินมาให้เรา
ด้าน นายนันทวัฒน์ หรือเวย์ อายุ 19 ปี บอกว่า ตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าไปทำร้ายเขาเพราะรู้ว่ามีปืน แต่ยอมรับว่าได้พูดไปว่าไม่กลัว ซึ่งท่าทางที่จะโผใส่เข้าไปหานายพัศพงษ์ เหมือนเป็นการหยอกล้อ แต่เมื่อเขายิงปืนจริงตนเองก็ตกใจ และรีบเข้าไปยกมือไหว้ แต่เขาก็ตบหัวและสั่งให้นั่ง จากนั้นก็รุมเตะ ตนเองยืนยันว่าไม่มีอาวุธ หรืออะไรจะไปทำร้ายเขา และให้ภาพวงจรปิดนั้นเป็นสิ่งที่แสดงหลักฐานในภาพตามที่ปรากฏ ส่วนตัวยังกลัวและต้องเก็บตัวไม่ออกไปไหนเพราะกลัวจะถูกทำร้าย
