xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจ ทหารบุกบ้านเอกชิน ค้นปืนคดีทำร้ายลูกชายเจ้าของร้านข้าวต้ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นครปฐม - ตำรวจ ทหารบุกบ้านเอกชิน ค้นหาปืนวันก่อเหตุทำร้ายลูกชายเจ้าของร้านข้าวต้ม ส่วนเสี่ยจักร มอบตัวด้วยอาการหัวเสีย ไม่พอใจสื่อแค้นที่นำเสนอข่าว อึ้ง 2 คนที่ยังไม่ได้ตัว 1 คน ติดคุกคดียา อีกคนหนีหมายจับในคดียาเสพติด

จากกรณีคลิปภาพวงจรปิดที่ นางสุนันท์ และนายนันทวัฒน์ อ่อนศิริ 2 แม่ลูก เจ้าของร้านข้าวต้ม ที่ถูก นายพัศพงษ์ อู่ตะเภา อายุ 39 ปี เสี่ยรับเหมาก่อสร้าง ใช้อาวุธปืนยิงในร้าน และร่วมกับเพื่อนเตะเสยหน้า ที่ปรากฏเป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจในขณะนี้ โดยหลังเกิดเหตุ นายพัศพงษ์ หรือเอกชิน ได้เข้ามอบตัว และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก โดยเป็นคดีพยายามฆ่า ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง ทางสาธารณะ ไปในเมืองหรือหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร โดยยื่นวงเงินสด 1 แสนบาท ประกันตัวในชั้นสอบสวนเมื่อกลางดึกวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด วันนี้ (23 ต.ค.) พ.ต.อ.ศุภเกียรติ เทิดตระกูล ผกก.สภ.กำแพงแสน ได้รับการประสานงานจาก นายจักรินทร์ ศิลาประเสริฐ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.7 ต.ทัพหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม เพื่อขอเข้ามอบตัวหลังถูกออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นบุคคลที่ปรากฏในภาพว่ามีการชักอาวุธปืนในช่วงเกิดเหตุ และได้เข้าห้ามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในช่วงที่มีการให้ปากคำและทำบันทึกข้อกล่าวหา ได้มีการเดินผ่านผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าว โดยได้มองหน้าทีมสื่อด้วยความโกรธ และได้สอบถามว่าสื่อที่มานั้นมองหน้าตนทำไม และถามว่าสื่อคนไหนเอาข่าวของตนไปออก ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปรามให้อยู่ในความสงบ และรักษามารยาทในสถานที่ราชการ โดยมี ปุณมนัส หรือเก่ง เทียนทอง อายุ 29 ปี ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้มาเป็นพยานในการสอบสวน

โดย พ.ต.อ.ศุภเกียรติ เทิดตระกูล ผกก.สภ.กำแพงแสน เผยว่า สำหรับขณะนี้ ได้สรุปผู้ที่นั่งร่วมอยู่ในโต๊ะ ประกอบด้วย นายพัศพงษ์ อู่ตะเภา หรือเอกชิน ผู้ชักอาวุธปืนยิง และร่วมทำร้ายร่างกาย นายเก่งกล้า พรหมชาติ อายุ 30 ปี หรือ เบ๊นซ์ อยู่บ้านเลขที่ 104 ม.5 ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ.นครปฐม ขณะนี้ถูกจับกุมในข้อหายาเสพติด เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และยังถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำกลางนครปฐม นายสหรัฐ หรือไมค์ อยู่บ้านเลขที่ 111/3 ม.6 ต.หนองดินแดง อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งพบว่ามีหมายจับกุมของชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม ในคดียาเสพติด ขณะนี้ไม่มาตามหมายเรียกในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งหากไม่มาพบจะออกหมายจับต่อไป นายจักรินทร์ ศิลาประเสริฐ อายุ 43 ปี ที่เข้ามามอบตัววันนี้ ในข้อหาพกพาอาวุธปืน

วันเดียวกัน เวลา 14.30 น. กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กำแพงแสน ได้สนธิกำลังทหาร กรมการสัตว์ทหารบก ใช้อำนาจของ คสช. เข้าตรวจค้นบ้านของนายสุชิน หรือกำนันชิน อู่ตะเภา อายุ 59 ปี อดีตกำนันตำบลโพรงมะเดื่อ เพื่อขอค้นอาวุธปืน โดยได้รับมอบอาวุธปืนขนาด 11 มม. ซึ่ง นายพัศพงษ์ อ้างว่าเป็นปืนกระบอกที่ก่อเหตุในคืนดังกล่าว โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วยเอกสาร และได้นำไปเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนปืนที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ หากตรงกันจะมีข้อหาเพิ่มคือ ครอบครองอาวุธปืนผิดมือ อีก 1 ข้อหา วันเดียวกัน ได้ไปค้นที่บ้านของนายจักรรินทร์ หรือจักร เพื่อหาอาวุธปืนที่พกมาในวันดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (24 ต.ค) ทางพนักงานสอบสวนจะได้ทำการควบคุมตัว นายพัศพงษ์ อู่ตะเภา หรือเอกชิน ไปฝากขังยังศาลจังหวัดนครปฐม โดยคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่ที่ต้องล่อยตัวกลับไป เป็นไปตามเอกสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่มาพบพนักงานสอบสวน และมีพฤติกรรมไม่หลบหนี ซึ่งจากนี้จะมีการตรวจสอบประวัติของผู้ที่มามอบตัวว่ามีคดีค้างเก่า หรือมีหมายจับกุมติดตัวหรือไม่ โดยรอการพิมพ์ลายนิ้วมือที่ส่งไปตรวจ โดยใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ก่อนส่งให้ไปพนักงานอัยการ และขั้นตอนของศาลต่อไป

ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินการที่มีกระแสว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช้าไป 2 เดือน ได้มีการประสานงานและติดต่อมาโดยตลอด แต่ที่ยังไม่ครบเนื่องจาก ทางนายนันทวัฒน์ หรือเวย์ ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทางตำรวจได้ส่งตัวไปให้แพทย์โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ทำการตรวจและขอใบรับรองแพทย์เพื่อมาประกอบในสำนวน โดยผู้เสียหายไม่ได้ไปตรวจซ้ำ จึงยังไม่สามารถสรุปสำนวนได้ และยังรอให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายก่อน และเตรียมสอบปากคำเพิ่มในประเด็นของคืนที่เกิดเหตุ ส่วนในเรื่องของการไปเรียกร้องเงิน 2 แสนบาทนั้นไม่ทราบเรื่อง เพราะไม่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสรุปสำนวน เป็นการไปเจรจากันเอง ตำรวจไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้

ขณะนี้ สภ.กำแพงแสน ได้มีการเร่งการดำเนินการตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจภูธรภาค 7 ในการกวดขันอาวุธปืนซึ่งจะมีการเข้มในพื้นที่หนักเป็นพิเศษมากขึ้น และขอยืนยันให้ผู้เสียหายมั่นใจว่าตำรวจจะดำเนินคดีไม่ให้เป็นมวยล้มแน่นอน



กำลังโหลดความคิดเห็น