xs
xsm
sm
md
lg

อช.กุยบุรี ตรวจซากช้างป่าปลายงวงมีรอยเฉือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ผ่าพิสูจน์ซากช้างป่าตายอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี เบื้องต้น คาดว่าตายมาประมาณ 1 สัปดาห์ พบว่าบริเวณปลายงวงมีร่องรอยถูกเฉือนด้วยของมีคม

วันนี้ (23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี พร้อมด้วยนายทัศเนศวร์ เพชรคง หน.อุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และนายทัศนะ ศรีวิลาศ หัวหน้าโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมทีมสัตวแพทย์จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ห้วยทราย อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และพนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ทหารค่ายธนะรัชต์ และทหารชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ บ้านรวมไทย ตำรวจตระเวนชายแดน กำนันตำบลหาดชาม และฝ่ายปกครองอำเภอกุยบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 50 นาย ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

หลังจากชุดลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่ กร.5 (ห้วยลึก) ออกลาดตระเวนไปพบช้างป่าตาย 1 ตัว บริเวณแปลงหญ้าป่าหุบมะกรูด ท้องที่ ม.7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ใช้เครื่องสแกนตรวจวัตถุโลหะที่ซากช้างป่าตัวที่ตายจนทั่วแต่ก็ไม่พบวัตถุใดๆ จึงเชื่อได้ว่าช้างป่าตัวที่ตายไม่มีสาเหตุการตายจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด

หลังจากนั้น นายสัตวแพทย์กชพร พิมพ์สิน สัตวแพทย์ประจำศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย และทีมสัตวแพทย์ได้ทำการผ่าพิสูจน์ซากช้างป่า และเก็บอาหารในกระเพาะ และชิ้นเนื้อเพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ค่ายพยาธิวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง

เนื่องจากผ่าแล้วถึงจะไม่พบว่าถูกทำร้ายจากมนุษย์ก็ตาม แต่พบความผิดปกติในส่วนต่างๆ ทั้งกระเพาะ ลำไส้มีการอักเสบ ยังไม่สามารถระบุได้ในวันนี้ ต้องรอผลยืนยันจากห้องแล็บอีกครั้งว่าตายด้วยสาเหตุอะไร โดยช้างป่าตัวนี้เป็นเพศเมีย อายุประมาณ 30-40 ปี ซึ่งถือว่าเป็นช้างที่มีอายุมากแล้ว ซึ่งตายแล้วประมาณ 7 วัน เนื่องจากสภาพเริ่มเน่า หนังเริ่มหลุด ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง อีกทั้งบริเวณขนายก็เริ่มหลุดออกมาแล้วและได้ให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี นำไปเก็บดูแลรักษาต่อไป

ในขณะเดียวกัน หลังจากทหารฝ่ายความมั่นคง พบว่า บริเวณปลายงวงของช้างป่าตัวที่นอนตายอยู่นี้ มีร่องรอยลักษณะคล้ายถูกของมีคมเฉือนออกไปนั้น ทางนายสัตวแพทย์กชพร พิมพ์สิน สัตวแพทย์ตรวจสอบ และให้ความเห็นว่าไม่ใช่ร่องรอยของสัตว์ที่เข้ามากัดแทะแต่อย่างใด เพราะจะต้องมีรอยฟันให้เห็น แต่คาดว่าน่าจะถูกตัด หรือเฉือนออกไปซึ่งน่าจะเกิดจากหลังจากที่ช้างป่าได้ตายแล้ว

นายทัศเนศวร์ เพชรคง หน.อุทยานแห่งชาติกุยบุรี กล่าวว่า ได้รายงานให้ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทราบแล้ว หลังจากผ่าเสร็จแล้วทางอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้ใช้รถแบ็ดโฮขุดหลุมกลบฝังซากช้างไว้ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งในปัจจุบันนี้พบว่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีประชากรช้างเพิ่มขึ้นกว่า 300 ตัวในขณะนี้ และพบว่ามีลูกช้างเกิดใหม่กว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรช้างป่า




กำลังโหลดความคิดเห็น