อุบลราชธานี - ทหาร ตำรวจ ปกครอง เข้มร้านขายประทัดดอกไม้ไฟ ห้ามวางขายริมถนน และห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี และจากการตรวจสอบไม่พบฝ่าฝืนนำประทัดอานุภาพรุนแรงวางจำหน่ายตามคำสั่งของ คสช.
นายอธิพันธ์ วัฒนวงษ์สิงห์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอเมืองอุบลราชธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ทหารกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อย อ.เมืองอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายประทัดดอกไม้ไฟที่ได้ยื่นขออนุญาตวางจำหน่ายในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี จำนวน 4 จุด
พบไม่มีการฝ่าฝืนนำประทัดดอกไม้ไฟที่มีอานุภาพร้ายแรง เช่น ประทัดแบบปิงปอง หรือประทัดแบบสามเหลี่ยม ซึ่ง คสช.มีคำสั่งห้ามวางจำหน่ายมาขายให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลวันออกพรรษา แต่ผู้จำหน่ายยังไม่ปฏิบัติตามระเบียบของ สคบ. คือ การติดป้ายแสดงราคาประทัดและดอกไม้ไฟ จึงสั่งให้ติดป้ายแสดงราคาสินค้าที่ชัดเจน
นายอธิพันธ์ วัฒนวงษ์สิงห์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันอำเภอเมืองอุบลราชธานี กล่าวว่า การออกตรวจสอบร้านจำหน่ายประทัดดอกไม้ไฟวันนี้ ได้เข้มงวดไม่ให้ผู้จำหน่ายขายประทัดและดอกไม้ไฟให้กับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 14 ปี เพราะถือมีความผิดตามกฏหมาย รวมทั้งห้ามนำประทัดที่มีอานุภาพสูงตามประกาศของ คสช.มาจำหน่ายอย่างเด็ดขาด เพราะจะเป็นอันตรายกับผู้นำไปเล่น
พร้อมขอประชาสัมพันธ์ถึงพ่อค้าแม่ค้าที่จะนำประทัดไปวางจำหน่ายตามริมถนนข้างทางที่จัดให้มีงานรื่นเริงในเทศกาลออกพรรษา ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่รับอนุญาตให้จำหน่ายในพื้นที่กำหนดไว้ในกฏหมาย รวมทั้งการปล่อยโคมลอยก็ถือเป็นความผิด เพราะปีนี้ ยังไม่มีใครมาการยื่นขออนุญาตปล่อยโคมลอยแม้แต่รายเดียว
หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบมีการวางจำหน่ายประทัดริมถนนนอกจากจุดที่ได้ขออนุญาตจะถูกจับกุมทันที
สำหรับอุบัติเหตุจากการเล่นประทัดจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัดของจังหวัดอุบลราชธานีแม้แต่รายเดียว ผิดจากทุกปีที่ผ่านมา มักมีเด็กได้รับบาดเจ็บจากการนำประทัดมาจุดเล่นทำให้นิ้วมือขาด ฝ่ามือฉีกขาด หรือกระดูกนิ้วมือแตกจากอานุภาพการระเบิดของประทัดที่นำมาเล่นเป็นประจำทุกปี
ด้าน นพ.ดนัย เจียรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลออกพรรษาทุกปี มักจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ จากการสำรวจพบเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มักจะได้รับอันตรายจากการเล่นประทัดมากที่สุด เนื่องจากการไม่ทราบถึงความร้ายแรงของแรงอัดประทัดที่นำมาเล่น ทั้งยังดัดแปลงให้มีแรงอัดเพิ่ม เช่น จุดในกระป๋อง ท่อพีวีซี ขวดแก้ว ขวดกระเบื้อง ขวดน้ำยาทาเล็บ หรือภาชนะอื่นๆ ทำให้เกิดแรงอัดอย่างรุนแรง และมีเสียงดังผิดปกติแล้ว ยัง ก่อให้เกิดอันตรายต่อแก้วหู นัยน์ตา จากเศษภาชนะที่แตกกระจายกระเด็นใส่ร่างกาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้
จึงขอเตือนผู้ปกครองให้ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรให้เด็กนำประทัดไปดัดแปลงให้มีแรงระเบิดหรือแรงอัดมากกว่าปกติ และไม่ควรจุดพลุไฟใกล้แนวสายไฟ อาคารบ้านเรือน สถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ถังเชื้อเพลิง วัตถุไวไฟ หรือบริเวณที่มีลมพัดแรง เพราะทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้