ว่อนเฟซ-ไลน์ มือดีโพสต์จระเข้ยักษ์หลุดลงเขื่อนศรีนครินทร์ ทำลายไฮซีซันเมืองกาญจน์ ยันเป็นข่าวลวง

กาญจนบุรี - ว่อนเฟซ-ไลน์ มือดีมันโพสต์ข่าวปลอมจระเข้ยักษ์ ทำลายการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันของ จ.กาญจนบุรี อีกแล้ว ส่วน ผกก.ศรีสวัสดิ์ ยันไม่เป็นความจริง นักท่องเที่ยวไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ ทั้งสิ้น ยันเป็นข่าวลวง

วันนี้ (23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดกาญจนบุรี มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย และมีแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่เรียกกันว่าทะเลสาบน้ำจืดบริเวณท้ายเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ และทะเลสาบท้ายเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

ที่สำคัญช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว หรือช่วงไฮซีซัน ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ และทั่วทุกมุมโลกมักนิยมมาเที่ยวพักผ่อนตามโรงแรม รีสอร์ต รวมทั้ง ล่องแก่ง เที่ยวตามแพพัก แพล่องที่มีอยู่บริเวณท้ายเขื่อนทั้ง 2 แห่ง นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สนุกสนานกับการท่องเที่ยวแล้ว ยังได้สัมผัสบรรยากาศที่เย็นสบาย และได้ชมเมฆหมอกสีขาวเหมือนปุยนุ่นที่ลอยอยู่บนเหนือผิวน้ำอย่างสบายใจ ซึ่งช่วงไฮซีซันนี้เอง จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี อย่างเนืองแน่น ทำให้เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวกระจายสู่ชุมชนท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก

ซึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีเป็นจำนวนมาก มีเม็ดเงินกระจายสู่ท้องถิ่น สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนเป็นเงินจำนวนมหาศาลนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีกับการท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรีเป็นอย่างมาก “แต่สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น ก็มักจะถูกทำลายด้วยฝีมือของกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีอยู่เสมอ”

ล่าสุด การท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี ได้ถูกมือดีทำลายอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการนำข้อมูล รวมทั้งรูปภาพที่ไม่เป็นความจริงมาโพสต์ลงในโลกโซเชียล สร้างความแตกตื่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่มีแผนเดินทางมาพักผ่อนที่บริเวณทะเลสาบอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

โดยเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา เพจที่ใช้นามว่า “GmmWorK SOCIAL NEWS” ได้โพสต์ภาพจระเข้ตัวขนาดใหญ่ยักษ์จำนวนหลายตัวขณะนอนกองรวมกันอยู่บนเรือยนต์ โดยมีชาย 2 คนเฝ้าดู แต่ชายทั้ง 2 คน ก็ถูกเบลอใบหน้าเอาไว้ นอกจากนี้ ยังนำภาพของแพล่องมาประกอบเพื่อให้คนอ่านและคนดูตื่นตระหนก

นอกจากนี้ เพจดังกล่าวยังสร้างภาพขึ้นมาเพื่อให้ประชาชน รวมทั้งนักท่องเที่ยวเชื่อถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความจริง ด้วยการนำภาพของนายศักดิ์ สมบุญโต อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งระหว่างปี พ.ศ.2558-2560 มาประกอบพร้อมกับบรรยายว่า นายศักดิ์ สมบุญโต ตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วน

สำหรับข้อมูลที่เขียนเอาไว้ในเพจระบุว่า “จากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวแตกฮือพบเห็นไอ้เข้เลี้ยงชื่อเจนี่-มิกกี้ ลอยน้ำมาช่วงบ่ายของวันที่ 20 ตุลาคม ในที่พักริมเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี จนเจ้าหน้าที่ต้องประกาศทางช่อง 9 ทีวี และวิทยุประจำจังหวัดกาญจนบุรี กระจายข่าว 14 จุดห้ามนักท้องเที่ยวลงน้ำจนกว่าจะจับไอ้เข้ได้ครบทั้งหมด

ล่าสุด เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่หัวหน้าชุดกู้ภัย และนักเชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงไอ้เข้ นำเรือ 30 ลำ พร้อมตาข่ายไฟฟ้าไล่ล่า เจนี่-มิกกี้ เป็นชื่อของไอ้เข้ที่ผู้เลี้ยงเรียกที่หลุดไป จับได้แล้ว 9 ตัว คาดว่าที่หลุดไปนั้นมี 14 ตัว ยังค้นหาอีก 5 ตัว ระยะค้นหา 20 กิโลเมตรจากจุดที่หลุดออกมา รวมถึงประกาศแจ้ง 14 แห่งที่อยู่ในพื้นที่ 20 กิโล ขอให้นักท่องเที่ยวงดลงเล่นน้ำ จนกว่าจะจับได้ครบทั้ง 14 ตัว

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายศักดิ์ สมบุญโต ตั้งโต๊ะแถลงข่าวด่วน เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะกาญจนบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นแนวหน้าของประเทศไทย เราคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับ 1

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพราะกรงที่ขังสนิมขึ้นเกิดหักลงมาทั้งแผงทำให้หลุดออกมาทั้งหมด จึงรีบประสานงานตรวจสอบพร้อมปิดน่านน้ำระยะ 20 กิโล จนจับได้แล้ว 9 เหลืออีก 5 คาดว่าจะหลุดไปจากระยะทางที่กำหนด”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้แชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก และมีการโทรศัพท์เข้ามาสอบถามสื่อมวลชน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐกันเป็นจำนวนมากว่า โพสต์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่

โดยล่าสุด พ.ต.อ.วันชัย อ่อนลออ ผกก.สภ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั่นทราบข้อเท็จจริงว่า ที่มีการสอบถามทางกลุ่มไลน์ ว่ามีจระเข้ 14 ตัว หลุดออกจากกรงลงไปในเขื่อนศรีนคริทร์ สภ.ศรีสวัสดิ์ ได้ตรวจสอบแล้ว ไม่เคยปรากฏว่ามีการเลี้ยงจระเข้ ไม่มีผู้นำจระเข้เข้ามาในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ศรีสวัสดิ์ แต่อย่างใดตามข่าว เนื้อหาของข่าวเคยเป็นข่าวมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงเกิดขึ้น

เมื่อไม่เป็นความจริง ดังนั้น ขอให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวตามแผนที่วางเอาไว้ได้อย่างสบายใจ และไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะข่าวดังกล่าวนั้นเป็นข่าวลวง