น่าน - รมว.ทรัพย์ฯ ติดตามผล คทช.พื้นที่น่าน ย้ำต้องสร้างความเข้าใจในกฎกติการ่วมกัน พร้อมดึงทุกฝ่ายแก้ปัญหาที่ทำกิน เชื่อพืชเศรษฐกิจและไม้มีค่าเปลี่ยนความคิดเกษตรกรเลิกปลูกพืชเชิงเดี่ยวต้นตอเขาหัวโล้น-สารเคมี
วันนี้ (18 ต.ค.) พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดน่านตรวจเยี่ยมติดตามการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของประชาชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และความก้าวหน้าการดำเนินการโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล และคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสันติสุข ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน เป็นการสร้างความสมดุลในการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โดยมี นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย พ.อ.วิทยา แก้วพรม รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38, อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชและผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้บริหารในพื้นที่ส่วนราชการเกี่ยวข้องร่วมต้อนรับและประชุมรับมอบนโยบาย โดยเฉพาะหัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาประจำอำเภอ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย คทช.ระดับชุมชนและระดับอำเภอ โดยเน้นสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกับภาคประชาชน
ทั้งนี้ จังหวัดน่านมีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั้งหมด 3.22 ล้านไร่ จากการสำรวจพบว่าก่อนปี 2545 มีร่องรอยราษฎรอาศัยและทำกิน 1.56 ล้านไร่ โดยพบอยู่ในลุ่มน้ำชั้น 1 และ 2 จำนวน 9 แสนไร่ และอยู่อาศัยทำกินในลุ่มน้ำชั้น 3, 4, 5 อีกจำนวน 7 แสนกว่าไร่ และหลังปี 2545 พบร่องรอยการเข้าทำประโยชน์ของประชาชนอีกกว่า 2 แสนไร่ และป่าอนุรักษ์อีก 2 แสนกว่าไร่ โดยการดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ตามนโยบายของรัฐบาล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560-2562 กรมป่าไม้อนุญาต และได้จัดประชาชนเข้าอยู่อาศัยทำกินไปแล้วจำนวน 1,991 ราย เนื้อที่ 25,507 ไร่ ที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการในปี 2562 เป้าหมายใน 11 อำเภอ ครอบคลุม 35 ตำบล จำนวน75,513 กว่าไร่
โครงการ คทช.ประชาชนที่เข้าอยู่อาศัยทำกินในที่ดินตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) จะเสียค่าธรรมเนียมภาษีที่ดินไร่ละ 25 บาทต่อ 30 ปี และให้ต่ออายุได้ 1 ครั้ง ซึ่งผู้ที่อยู่อาศัยทำกินไม่สามารถขายสิทธิหรือนำไปขายต่อให้บุคคลอื่นได้อีก แต่สามารถโอนให้ทายาทอยู่อาศัยทำกินต่อไปได้
พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญต่อแนวทางการทำความเข้าใจและความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและ คทช.ระดับอำเภอทั้ง 15 อำเภอทั่วทั้งจังหวัดน่านเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย และเชื่อว่าการรับรองสิทธิตามนโยบาย คทช. รวมถึงการออกแบบร่วมกับเกษตรกรจะสามารถส่งเสริมการปลูกไม้มีค่า และพืชเศรษฐกิจตัวอื่นๆ ทดแทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งไม่สามารถตอบโจทย์และแก้ปัญหาความยากจนได้ ซึ่งหลังจากมอบนโยบายแล้วรัฐมนตรีและคณะได้ลงพื้นที่ต่อที่วัดโป่งคํา ต.สันติสุข อ.สันติสุข เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนชาวอำเภอสันติสุข และรับฟังความคิดเห็นรวมทั้งข้อมูลด้านต่างๆ เพื่อใช้ในการพิจารณาแนวทางปฏิบัติต่อไป
