โรบินสันศรีราชา ร่วมกับทัณฑสถานหญิง จัดกิจกรรมให้แก่ “ผู้หญิงหลังกำแพงสูง”

ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรบินสันศรีราชา ร่วมกับทัณฑสถานหญิง จัดกิจกรรมให้แก่ “ผู้หญิงหลังกำแพงสูง” พร้อมทั้งรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม ชวนจิตอาสาร่วมกันเย็บเต้านมเทียมเพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ยากไร้ ผ่านทางโรงพยาบาลต่างๆ ของรัฐ ทั่วประเทศ

วันนี้ (17 ต.ค.) นายวัฒชนะ แก้วสุริยอร่าม ผู้จัดการทั่วไป โรบินสัน สาขา ศรีราชา เป็นประธานเปิดโครงการ ROBINSON LINGERIE SHARING ขึ้น ระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม-11 พฤศจิกายน 2561 เพื่อร่วมแบ่งปันสิ่งดีๆ คืนสู่สังคม โดยการเย็บเต้านมเทียม เพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ยากไร้ผ่านทางโรงพยาบาลต่างๆ ของรัฐทั่วประเทศ รวมทั้งร่วมบริจาค “กางเกงชั้นในใหม่” เพื่อสุขอนามัย ให้แก่ “ผู้หญิงหลังกำแพงสูง” โดยมี นางปัทมา วิวัฒน์วานิช นายกกิ่งกาชาดอำเภอศรีราชา นางโสภิต โหมดม่วง ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขังทัณฑสถานหญิงจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมกิจกรรม

นายวัฒชนะ เผยว่า เนื่องจากวันพุธที่ 3 ของเดือนตุลาคม ซึ่งกำหนดให้เป็น “วัน Bra Day” และในเดือนตุลาคมของทุกปี ยังเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม จึงได้จัดกิจกรรม One Day Kick Off ขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ผู้หญิงหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเอง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม ผ่านการเสวนาเรื่อง “ใช้ชีวิตอย่างไร...ให้ห่างไกลมะเร็งเต้านม” พร้อมเชิญชวนลูกค้าจิตอาสามาร่วมกัน “เย็บเต้านมเทียม” เพื่อนำไปมอบให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ยากไร้ผ่านทางโรงพยาบาลต่างๆ ของรัฐทั่วประเทศ

รวมทั้งยังร่วมกับลูกค้าโรบินสันร่วมกันบริจาคกางเกงในใหม่เพื่อสุขอนามัย ในโครงการ “กางเกงชั้นในใหม่” เพื่อสุขอนามัย ให้แก่ “ผู้หญิงหลังกำแพงสูง” โดยเมื่อสิ้นสุดโครงการจะนำกางเกงชั้นในไปมอบให้แก่ผู้ต้องขังหญิงในทัณฑสถานหญิงจังหวัดชลบุรี ซึ่งในปัจจุบัน มีผู้ต้องขังหญิงจำนวนถึง 1,260 คน โดยต้องโทษมาจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดถึง 80% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด

นางโสภิต โหมดม่วง นักทัณฑวิทยาชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง ทัณฑสถานหญิงจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณโรบินสันที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา สิ่งที่มอบให้มีประโยชน์แก่ผู้ต้องขังหญิงเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ต้องขังหญิงในปัจจุบันมีจำนวน 1,260 คน มาจากคดียาเสพติดประมาณ 80% ซึ่งชุดชั้นในมีความจำเป็นกับผู้ต้องขังหญิงเป็นอย่างมาก ในเรื่องสุขอนามัยของผู้ต้องขัง

ในตอนนี้ผู้ต้องขังหญิงที่เข้ามาใหม่ก็เริ่มมีอายุน้อยลง อายุประมาณ 20 ปี ก็ต้องโทษแล้ว ซึ่งทัณฑสถานหญิงอยากให้มีการบำบัดมากกว่า เนื่องจากถ้าเข้าไปอยู่ด้านในแล้วจะไปเรียนรู้ในสิ่งที่ไม่ดีออกมา แต่ทางทัณฑสถานหญิงก็มีโครงการฝึกอาชีพ เพื่อให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกมามีงานทำด้วย