xs
xsm
sm
md
lg

“น้องเมย” เสียชีวิตครบ 1 ปี คดียังไม่ไปไหน มีเพียงรุ่นพี่ 1 รายรอศาลตัดสิน ธ.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ศูนย์ข่าวศรีราชา - “น้องเมย” ครบรอบเสียชีวิต 1 ปี คดียังไม่ไปไหน มีเพียงรุ่นพี่ 1 นาย ที่ต้องรอคำพิพากษาจากศาลในเดือน ธ.ค.นี้ ส่วนตำรวจยังไม่สามารถสรุปสำนวนการเสียชีวิตได้ แต่ยังดีใจได้กำลังใจจาก ผอ.สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ



วันนี้ (17 ต.ค.) นายพิเชษฐ นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พ่อแม่ และพี่สาวของ “น้องเมย” หรือ นตท.ภคพงษ์ ตัญกาญจน์ ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ต.ค.2560 โดยในครั้งนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุสาเหตุเพียงว่าเกิดจาก “หัวใจล้มเหลว” จนนำสู่การผ่าพิสูจน์รอบ 2 และพบว่ามีการสูญหายของอวัยวะสำคัญ และนำไปสู่การดำเนินคดีกับรุ่นพี่ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้จัดให้มีพิธีทำบุญครบรอบการเสียชีวิตครบ 1 ปี ที่วัดวิเวการาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมี พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ที่นำคณะนายทหาร เข้าร่วม พร้อมกับญาติ และคนสนิทของครอบครัว

พล.อ.นเรนทร์ เผยว่า การนำคณะนายทหารเข้าร่วมพิธีทำบุญให้แก่ “น้องเมย” ในครั้งนี้เพราะต้องการเข้ามาพูดคุยและให้กำลังใจแก่ครอบครัว หลังเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลโรงเรียนเตรียมทหาร ภายใต้นโยบายของผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนปัจจุบัน โดยจะให้ความสำคัญกับการพูดคุยทำความเข้าใจกัน และพร้อมที่จะเข้ามาบรรเทาความทุกข์ต่างๆ ให้แก่ครอบครัว โดยยืนยันว่ากองทัพจะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด และบุคลากรที่กระทำผิดจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

“ในวันนี้คงต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกสิ่งที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและกระบวนการทางศาล ซึ่งในส่วนนี้เราจะไม่เข้าไปก้าวล่วง เพราะมั่นใจกระบวนการยุติธรรมจะนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ แต่ในส่วนของผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะต้องไม่มีมลทินติดตัวไป เพราะนักเรียนเตรียมทหาร ถือเป็นกำลังที่จะต้องเติบโต เป็นกำลังหลักของชาติ ซึ่งหากเด็กที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและต้องมีมลทินติดตัวก็อาจทำให้เสียโอกาสในการเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือ ทุกฝ่ายจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ และเมื่อถึงกระบวนการยุติธรรมแล้วเราก็เชื่อว่าจะได้สิ่งที่ถูกต้องที่สุด และหากยังไม่เป็นที่พอใจกระบวนการยุติธรรมก็มีทั้งศาลชั้นต้น ชั้นกลาง และศาลฎีกา ที่จะช่วยเหลือครอบครัวน้องเมยได้”

พล.อ.นเรนทร์ ยังเผยถึงการดูแลในส่วนที่ 2 คือ เรื่องการเยียวยาด้านจิตใจที่ในวันนี้กองทัพจะเข้ามาดูแลตามความต้องการของครอบครัว ซึ่งแม้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา การดำเนินงานในส่วนต่างๆ โดยเฉพาะเอกสารทางราชการที่ค่อนข้างล่าช้า เพราะมีกฎระเบียบข้อบังคับที่ต้องทำตามหลักการ และต้องใช้เวลา แต่ในวันนี้ยืนยันว่า อะไรที่สามารถอำนวยความสะดวกให้ได้และไม่ผิดกฎระเบียบข้อบังคับ ทหารพร้อมที่จะยินดีทำให้เกิดความสบายใจแก่ทุกฝ่าย


พ่อยันผ่าน 1 ปีสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตจากตำรวจยังไม่ไปไหน

นายพิเชษฐ เผยว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ในแง่ความรู้สึกของความเป็นพ่อแล้ว เพิ่งปรากฏความยินดีในวันที่ครบรอบ 1 ปีการเสียชีวิตของบุตรชาย หลังมีผู้ใหญ่ในกองทัพ ลงมาพบกับครอบครัวซึ่งถือว่าเป็นเกียรติ แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยได้รับการดูแลจากทางโรงเรียนเตรียมทหาร หรือแม้แต่ทางกองทัพไทย

“ในจุดนี้น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งทางครอบครัวก็ได้ฝากไปยังท่าน และยังขอฝากไปยังท่านผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ว่าขอให้นำคนผิดมาลงโทษทางกฎหมายให้ได้ก่อน ส่วนการเยียวยาคงเป็นเรื่องที่จะต้องคุยกันในภายหลัง และผมก็ยังยืนยันเช่นเคยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นโรงเรียนเตรียมทหาร หรือกองทัพไทย น่าจะรู้ดีกว่าผม ไม่ว่าจะเป็นผลการสอบสวนเรื่องการเสียชีวิตทั้ง 2 ครั้งที่ทำให้เราน้อยใจมาตลอดว่า คนเสียชีวิตและคนกระทำเป็นนักเรียนเตรียมทหารเหมือนกัน แต่ได้รับการดูแลที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง และล่าสุดก็เพิ่งเข้าไปรับหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล เรื่องให้เราสามารถเข้าไปรับเอกสารตามที่เคยร้องขอจากโรงเรียนเตรียมทหาร และกองทัพไทยได้แล้ว”

ส่วนเรื่องความคืบหน้าทางคดีนั้น นายพิเชษฐ ยืนยันว่าใการสรุปสำนวนการเสียชีวิตของ น้องเมย แม้วันนี้จะผ่านไปแล้วถึง 1 ปี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านนา และ สภ.เมืองนครนายก ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดขึ้นเพราะเหตุใด และยังคงโยนความรับผิดชอบกันไปมาเช่นเคย

ขณะที่การแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องทั้ง 4 เรื่องที่ครอบครัวได้ดำเนินการมาโดยตลอด และมี 1 เรื่องที่ถูกนำขึ้นสู่กระบวนการทางศาล คือ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2560 ซึ่งเป็นวันที่ “น้องเมย” ถูกรุ่นพี่บังคับบัญชาทำร้ายร่างกายนั้น ศาลจะทำการพิพากษาในเดือนธันวาคมนี้








กำลังโหลดความคิดเห็น