สระแก้ว- "พันศักดิ์" เปิดปากสารภาพยิงเจ้าของปั๊มน้ำมันเมืองสระแก้วด้วยตัวเอง จากปัญหาขัดแย้งทางธุรกิจ ด้านภรรยาพร้อมบุตรสาวเหยื่อกระสุนเข้ามอบดอกไม้ขอบคุณตำรวจ ขณะ ผบช.ภาค 2 ระบุจับกุมผู้ต้องหาได้ครบ 3 รายแล้ว คาดส่งตัวเข้าเรือนจำก่อนเที่ยงพรุ่งนี้
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (13 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้นำตัว นายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ และนางธนพร สุขโขจัย ภรรยานายพันศักดิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันฆ่านายประชา วรทัด อายุ 53 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันในซอยโรงเลื่อย ถนนเทศบาล 6 เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา มาส่งยัง สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อทำการสอบสวน และควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ดังกล่าว ว่า ล่าสุด นายพันศักดิ์ ได้ให้การรับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ลั่นไกยิงเจ้าของปั๊มน้ำมันเอง หลังจากที่ก่อนนี้ได้ให้การปฏิเสธ ยอมรับเพียงว่า รับจ้างจาก"เฮียท้ง"ผู้มีพระคุณ แต่ได้ไปจัดหามือปืนอีก 2 คนมายิงแทน
ส่วน นางธนพร หลังการสอบสวนเจ้าหน้าที้ได้ควบคุมไปยัง สภ.เขาสิงโต ก่อนจะไปรับตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งในช่วงเช้า และได้เชิญภรรยาและญาติของผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำเพิ่มเติมก่อนชี้ตัวผู้ต้องหาด้วย
พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สภ.เมืองสระแก้ว ร่วมกับ พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบช.ภาค 2 พ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว รวมทั้งทีมพนักงานสอบสวน ระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้ง 3 คนตามหมายจับในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ประกอบด้วย นายพันศักดิ์ มงคลศิลป์ นางธนพร สุขโขจัย และนายนิคม มนต์ศิริ หรือเสี่ยป๊อด โดย นายนิคม ได้นำตัวส่งฝากขังที่เรือนจำ จ.สระแก้ว ไปก่อนหน้าแล้ว
พล.ต.ท.จิตติ กล่าวว่า นายพันศักดิ์ และนางธนพร ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนเพิ่มเติม และล่าสุดได้รับแจ้งว่า นายพันศักดิ์ ให้การรับสารภาพทั้งหมดแล้วว่าปมสังหารเกิดจากเรื่องธุรกิจปั๊มน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตาม หากพยานหลักฐานสาวไปถึงผู้ใด ตำรวจก็จะขออนุมัติหมายจับเพิ่มในทันที
ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายเห็นหน้าคนร้ายแต่ไม่สามารถระบุหรือให้รายละเอียดได้ รวมถึง นายดำรงฤทธิ์ กิตติวราภรณ์ หรือเฮียท้ง อดีตเจ้าของปั๊มน้ำมันที่ตกเป็นผู้ต้องหาจ้างวานฆ่าแต่ได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น ขอให้อยู่ในสำนวนคดี ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ และก่อนเที่ยงวันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.) หลังสอบสวนเสร็จจะนำตัวทั้ง 2 ไปขออำนาจศาลฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสระแก้ว และอาจจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป พล.ต.ท.จิตติ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำสำนวนคดีอย่างน้อย 4 แฟ้ม มาร่วมรายงานในการแถลงข่าว พร้อมอาวุธปืน .38 และกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนกรณีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กจ 4966 สระแก้ว ซึ่งชุดสืบสวนยึดมาตรวจสอบ และพบความเชื่อมโยงว่าเป็นรถที่ใช้ในการนำตัวผู้ต้องหาหลบหนีหลังก่อเหตุ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.นั้น ขณะนี้เชื่อมโยงถึงผู้ต้องสงสัยอีก 2 ราย คือ นาย ช. และ นาย ย.
โดยหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นางปาลิดา วรทัด ภรรยาผู้เสียชีวิต น.ส.ปัทมาภรณ์ วรทัด บุตรสาว และญาติได้ร่วมกันมอบดอกไม้แก่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินทางไปดูบ้าน และปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ ซึ่งไม่ได้เข้าไปบ้านนานถึง 12 วันหลังเกิดเหตุ
น.ส.ปัทมาภรณ์ กล่าวว่า รู้สึกอุ่นใจระดับหนึ่งที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้ ซึ่งเป็น 12 วันที่รอคอย และดีใจจึงอยากขอบคุณตำรวจทุกๆ ท่าน แต่ขณะนี้ในส่วนของแม่ยังรู้สึกกลัวอยู่ จึงต้องร้องขอทีมคุ้มกันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
