ช่วงบ่ายวันนี้ (12 ต.ค.) ที่ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ นายหม่อง ทองดี อายุ 21 ปี อดีตเด็กนักเรียนไร้สัญชาติ ที่เมื่อปี 2552 เคยเป็นตัวแทนนักเรียนจากโรงเรียนบ้านห้วยทราย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันพับเครื่องบินกระดาษที่ประเทศญี่ปุ่น และชนะรางวัลกลับมา ซึ่งช่วยสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย เดินทางเข้าถ่ายรูปทำบัตรประจำตัวประชาชน
หลังจากช่วงเช้าวันนี้ได้มาที่อำเภอเมืองแล้วครั้งหนึ่งเพื่อรับหนังสือรับรองการได้รับสัญชาติไทยและเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ที่สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย แล้วได้เดินทางไปที่เทศบาลตำบลสุเทพเพื่อเพิ่มชื่อที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลตำบลสุเทพ เสร็จแล้วได้เดินทางกลับไปที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่อีกครั้งเพื่อถ่ายรูปทำบัตรประจำตัวประชาชน ท่ามกลางคนใกล้ชิดที่ติดตามให้กำลังใจจนกระทั่งเสร็จสิ้นกระบวนการที่นายหม่องได้รับบัตรประจำตัวประชาชนและมีสถานะเป็นคนไทยอย่างสมบูรณ์แบบ
หลังจากที่นายหม่องได้รับบัตรประจำตัวประชาชนนั้น นายยุ้น ผู้เป็นพ่อได้เข้าสวมกอดกันทั้งน้ำตาคลอเบ้าด้วยความยินดีที่สิ้นสุดการรอคอยมานาน
ทั้งนี้ นายหม่องเปิดเผยว่า รู้สึกโล่งใจและดีใจอย่างมากที่ได้ถือบัตรประชาชนไทยและเป็นคนไทยอย่างสมบูรณ์แบบแล้วหลังจากที่รอคอยมานาน โดยขอบคุณทุกคนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยเหลือและให้กำลังใจมาตลอดจนกระทั่งตัวเองได้รับสัญชาติไทย และมีบัตรประจำตัวประชาชนไทยเป็นของตัวเองในวันนี้ ซึ่งจากนี้จะยังคงมุ่งมั่นตั้งใจทำความดีและสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมและประเทศไทยต่อไปอย่างเต็มกำลังความสามารถ รวมทั้งจะเป็นเสาหลักเลี้ยงดูครอบครัวให้ได้ดีที่สุด
ขณะเดียวกัน อยากฝากไปถึงส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า อยากให้โอกาสเด็กไร้สัญชาติคนอื่นๆ ในการที่จะพิสูจน์สถานะของตัวเองในการที่จะมีสัญชาติไทยเหมือนที่ตัวเองได้รับโอกาส
ส่วนการเรียนนั้น เมื่อเรียนจบ กศน.ระดับชั้นมัธยมปลาย ซึ่งใกล้จะเรียนจบแล้ว ตั้งใจจะเรียนให้จบระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์สาขาโยธา เพื่อสืบทอดต่ออาชีพของพ่อที่ทำงานเกี่ยวกับการรับจ้างก่อสร้าง ขณะเดียวกันตนและครอบครัวมีแผนว่าจะหาซื้อหรือเช่าที่ดินเพื่อสร้างบ้านของครอบครัวให้อยู่ร่วมกันด้วย สำหรับแผนเบื้องต้นหลังจากที่ได้รับบัตรประชาชนไทยแล้ว เตรียมจะไปติดต่อเกี่ยวกับเรื่องการคัดเลือกทหารเนื่องจากมีอายุครบ 21 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามน่าจะทำเรื่องขอผ่อนผันก่อนเพราะยังอยากเรียนหนังสือให้จบเสียก่อน
