xs
xsm
sm
md
lg

กรมควบคุมมลพิษผนึก จ.กาฬสินธุ์ขนย้ายขยะพิษล็อตสองอีก 150 ตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายประลอง ดำรงไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
กาฬสินธุ์ - อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์เปิดปฏิบัติการขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ ต.โคกสะอาด ล็อตที่ 2 อีก 150 ตัน นำไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เล็งศึกษาความเป็นไปได้สร้างบ่อพักขยะและโรงคัดแยกขยะมาตรฐานในอนาคต

วันนี้ (11 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายประลอง ดำรงไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมด้วยนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์, พล.ต.ต.ทิณนะรัตน์ เพ็ชรพันธุ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.รมน.กาฬสินธุ์, นายพิชิต สมบัติมาก ผอ.สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์, นายประสูตร หอมบันเทิง นายอำเภอฆ้องชัย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่บริษัทโกรว์ กรีน เอ็นไวรอนเมนท์ จำกัด

ร่วมกันปล่อยขบวนรถบรรทุกปฏิบัติการขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่บ่อกำจัดขยะมูลฝอย ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ตามโครงการพัฒนาเกษตรปลอดภัยและอาหารปลอดภัย ภายใต้โครงการงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2561

นายพิชิต สมบัติมาก ผอ.สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากผลกระทบการประกอบกิจการธุรกิจรับซื้อของเก่า ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งขยะรีไซเคิลอื่นๆ ในพื้นที่ ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ จากการสำรวจมีผู้ประกอบการรวม 284 ราย คาดว่ามีการนำปริมาณขยะเก่าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า และขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาในพื้นที่เพื่อคัดแยกชิ้นส่วนประมาณ 1,021 ตันต่อเดือน หรือ 34 ตันต่อวัน กระบวนการแยกชิ้นส่วนอย่างไม่ถูกต้องและขยะที่เหลือที่ไม่สามารถขายได้ถูกนำไปทิ้งรวมกับบ่อขยะของ อบต.โคกสะอาดในพื้นที่ 23 ไร่ จนมีขยะอิเล็กทรอนิกส์สะสมมากกว่า 320 ตัน

นอกจากจะมีปัญหาการสะสมปนเปื้อนมลพิษและแพร่กระจายลงสู่พื้นที่การเกษตร และแหล่งน้ำ พืชผัก สัตว์น้ำต่างๆ แล้ว ยังอาจจะเสี่ยงส่งผลกระทบต่อร่างกายของประชาชนอีกด้วย เพราะสามารถวัดระดับการปนเปื้อนบริเวณบ่อกำจัดขยะดังกล่าวสูงเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะตะกั่วพบว่ามีมากถึง 79,520 mg/kg ซึ่งค่ามาตรฐานไม่เกิน 400 mg/kg แมงกานีส 1,519 mg/kg นิกเกิล 75.2 mg/kg และปรอท 0.70 mg/kg ที่สำคัญยังก่อให้เกิดปัญหาเรื่องกลิ่นและควันที่เกิดจากการเผาขยะ สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชนพื้นที่ใกล้เคียง

ดังนั้น เพื่อฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาการสะสมมลพิษ รวมทั้งป้องกันการแพร่กระจายปนเปื้อนไปสู่สิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเร่งขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์สะสมในพื้นที่บ่อกำจัดขยะนำไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ พร้อมทั้งปลูกพืชที่สามารถดูดซับมลพิษจากดินและแหล่งน้ำ เพื่อฟื้นฟูปัญหามลพิษจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ตลอดจนกำหนดมาตรการเพื่อหยุดยั้งนำขยะอันตรายหรือขยะอิเล็กทรอนิกส์มากำจัดรวมกับขยะชุมชน

ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 รวมทั้งสิ้น 150 ตัน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2561 ขนย้ายไปแล้ว 50 ตัน คาดว่ายังเหลือขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ตกค้างในบ่อขยะแห่งนี้ประมาณ 120 ตัน ซึ่งทาง จ.กาฬสินธุ์ได้ร่วมกับ อบจ.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ออกไปกำจัดอย่างถูกวิธีให้หมด จากนั้นจะขอความอนุเคราะห์จากกรมควบคุมมลพิษส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าสำรวจเพื่อศึกษาแนวทางความเป็นไปได้สร้างบ่อพักขยะและโรงคัดแยกขยะที่ได้มาตรฐานต่อไป

รวมทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา และขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องการคัดแยกขยะให้ถูกวิธีป้องกันอันตรายต่อสุขภาพ ควบคู่กับการประกอบอาชีพของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากอาชีพคัดแยกขยะของประชาชนพื้นที่ ต.โคกสะอาดนั้นสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวมานานกว่า 20 ปี และมีส่วนช่วยเรื่องการรีไซเคิลขยะของเก่าทั่วประเทศนำกลับมาใช้ใหม่อีกด้วย


ด้านนายประลอง ดำรงไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษจะร่วมกันดูแลเรื่องสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่และบริเวณโดยรอบ ทำให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลและถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลจะช่วยเหลือทั้งเรื่องมลพิษ คู่ขนานไปด้วยกันกับการประกอบอาชีพของประชาชน ถือเป็นอาชีพสร้างรายได้ ส่วนเรื่องเตาเผาขยะที่ชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องและต้องการให้สร้างนั้น ตอนนี้ขอยังไม่พูดถึง เพราะจะต้องขนย้ายออกไปกำจัดให้ถูกวิธีและป้องกันเรื่องมลพิษให้ประชาชนในพื้นที่เสียก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น