ทะลุเป้าทุกด้าน! เมืองน้ำดำโชว์ผลสำเร็จโครงการแก้จน เดินหน้าเพิ่มจีดีพี 10%

กาฬสินธุ์ - เมืองน้ำดำแถลงผลงาน Kalasin Happiness Model คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โครงการแก้ไขปัญหาความยากจน ตามนโยบายรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยประสบความสำเร็จทุกด้าน ลั่นเดินหน้าดัน GDP เพิ่มขึ้นอีก 10%

วันนี้ (10 ต.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ นายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.รมน.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธุ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.อ.ประวัติ จารุตัน เสธ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ นายประจักษ์ จอมทรักษ์ พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงผลการดำเนินโครงการ Kalasin Happiness Model คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ประจำปี 2561 โดยมีส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ประชาชน ร่วมงานและนำผลงานมาออกบูทจำนวนมาก

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 13 ธันวาคม 2560 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.กาฬสินธุ์ และกำหนดให้ จ.กาฬสินธุ์เป็นจังหวัดนำร่องในการแก้ไขปัญหาความยากจนให้แก่ประชาชน ภายใต้กรอบแนวคิด Kalasin Happiness Model คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จ.กาฬสินธุ์ จึงได้บูรณาการร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชารัฐ โดยดำเนินการในด้านต่างๆ

เช่น ยกระดับคุณภาพชีวิตคนจนขั้นพื้นฐาน, การเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ, สร้างบ้านใหม่ 88 หลัง ซ่อมแซม 544 หลัง, การแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งในและนอกระบบ 920 ราย, การช่วยเหลือด้านสุขภาพ การให้อาชีพ 3,755 ราย รวมการช่วยเหลือ 15,413 รายการ งบประมาณ 20,688,415 บาท

นอกจากนี้ ยังมีการยกระดับรายได้ผ่านกลไกการขับเคลื่อนโดยโครงการ Kalasin Green Market เป็นจังหวัดผลิตอาหารปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ สามารถเพิ่มพื้นที่ ผลิตอาหารปลอดภัยเพิ่มขึ้น 27,600 ไร่ จากเป้าหมาย 10,000 ไร่, ด้านการค้าการลงทุน ภาคอุตสาหกรรม สินค้า OTOP มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน 1,130 ล้านบาท, ด้านการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม มีการสร้างภาพจำของ จ.กาฬสินธุ์ โดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภายใต้แคมเปญ ทุกสิ่งสร้างสรรค์ ณ กาฬสินธุ์

ให้สามารถกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 64,559 คน และมีรายได้เพิ่มขึ้น 138.37 ล้านบาท, การพัฒนาภาคการศึกษา การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพกลุ่มผู้ใช้แรงงานทั้งในและนอกระบบ เพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงาน 6,184 คน สถานประกอบการ 272 แห่ง สามารถเพิ่มรายได้ให้กับจังหวัดรวม 3,061.56 ล้านบาท

นายไกรสรกล่าวอีกว่า ในส่วนของการอำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมแห่งความปลอดภัยนั้น มีการสร้างความรับรู้ด้านกฎหมายและการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม เช่น การขายฝาก หนี้นอกระบบ แชร์ลูกโซ่ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเชิงรุกสำเร็จ 623 คน ในมูลหนี้ 102 ล้านบาท,

การแก้ไขปัญหายาเสพติด กำหนดยุทธการฟ้าแดดสงยางระดมกวาดล้างยาเสพติด การจัดระเบียบสังคม ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านโดย ชรบ. ปฏิบัติการฟ้าแดดสงยางปิดล้อมตรวจค้น ได้ของกลางยาบ้า 130,127 เม็ด ยาไอซ์ 879.13 กรัม กัญชา 5,943.88 กรัม อาวุธปืน 145 กระบอก การบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด มีผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟู 1,070 คน และรับสมัครโครงการครัวเรือนสีขาวด้วย

ทั้งนี้ การดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 จ.กาฬสินธุ์มีเป้าหมายในการพัฒนาทั้ง 3 แนวทางหลัก คือ ยกระดับคุณภาพชีวิตคนจนขั้นพื้นฐาน, ยกระดับรายได้ และอำนวยความยุติธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นอกจากช่วยเหลือครัวเรือนยากจน และเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนแล้ว ยังมีเป้าหมายที่จะลดสัดส่วนคนจนจากปี 2559 คิดเป็นร้อยละ 31.99 ให้เหลือร้อยละ 25 โดยการบูรณาการแผนงาน โครงการ งบประมาณของส่วนราชการ

โดยความร่วมมือกับภาคเอกชน และประชาชน ผ่านโครงการสำคัญๆ เช่น การบริหารจัดการน้ำและการกระจายน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน การเพิ่มพื้นที่ผลิตอาหารปลอดภัย โครงการยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน

อย่างไรก็ตาม นายไกรสรกล่าวว่า ยังมีโครงการที่จะบูรณาการจากภาคส่วนต่างๆ เช่น โครงการบริการดี Happy ทั้งจังหวัด มุ่งเน้นการให้บริการที่สะดวกรวดเร็วของส่วนราชการ และโครงการบ้านน่าอยู่ คู่เมืองสวย (Kalasin Green Space) ที่จะสร้างความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการช่วยกันพัฒนา จ.กาฬสินธุ์ ให้เป็นเมืองน่าอยู่ บนพื้นฐานของการรักษาสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการขยะ การลดใช้โฟมและพลาสติก และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว

ทั้งนี้ โครงการทั้งหมดจะช่วยให้การดำเนินโครงการ Kalasin Happiness Model คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ก้าวสู่ปีที่ 2 เป็นการสานพลัง สร้างการพัฒนา เพื่อไปสู่จุดหมาย จ.กาฬสินธุ์ พ้นจากความยากจนและประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

รวมทั้งผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของจังหวัดเพิ่มขึ้นอีก 10% จากเดิมในปี 2561 รายได้เฉลี่ย 51,147 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2562 เป็น 56,261 บาทต่อคนต่อปี