อุบลราชธานี - รองผู้การฯอุบล นำชุดปราบปรามหนี้นอกระบบ พร้อมหมายศาลบุกค้นร้านทองและร้านรับจำนำเถื่อน ยึดทองคำ-รถยนต์-จยย.ซ้ำยังพบมีวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนำที่ดินบริจาคมาจำนำไว้ด้วย ด้านนายทุนที่รับจำนำบอก แค่ต้องการช่วยให้วัดมีเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สหรัฐ ประสงค์นิจกิจ รองผู้บังคับการฝ่ายปราบปราม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี พร้อม พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี ชุดปราบปรามหนี้นอกระบบสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว 3 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว นำหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 410/2561 ลงวันที่ 6 ต.ค.2561 เข้าตรวจค้นร้าน ต.รุ่งเรือง เป็นอาคารพาณิชย์สองชั้นครึ่ง ตั้งอยู่เลขที่ 614/3 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี ตามที่ได้รับการร้องเรียนว่าร้านดังกล่าวมีการรับจำนำสิ่งของ ที่ดิน โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึง นายนราชิต ธนาวิวัฒน์ชัยกุล อายุ 52 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน และนำเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นตู้ใช้เก็บเอกสารในร้าน พบเอกสารสัญญากู้ยืมพร้อมโฉนดที่ดิน ซึ่งเจ้าของนำมาจำนองและทำการโอนลอยไว้ให้ นายนราชิต เจ้าของเงินกู้จำนวน 46 ฉบับ
หนึ่งในจำนวนนั้น มีที่ดินของวัดแห่งหนึ่งในอำเภอม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้รับบริจาคมาจากประชาชนที่มีจิตศรัทธามอบให้กับทางวัดเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่เศษ มูลค่าจากราคาประเมินประมาณ 2 แสนบาท และได้มาจำนำไว้กับนายทุนรายนี้ในราคา 40,000 บาท
โดย นายนราชิต ระบุว่า ได้รับการขอร้องจากลูกศิษย์วัดที่นำที่ดินมาจำนอง เพราะต้องการเงินไปซื้อข้าวของเครื่องใช้เข้าวัด จึงได้รับจำนำไว้ให้ เพื่อเป็นการทำบุญกับทางวัดด้วย
นอกจากจะพบโฉนดที่ดินแล้ว ยังพบคู่มือทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ประชาชนนำมาจำนองไว้อีก 71 เล่ม และคู่มือทะเบียนรถยนต์อีก 3 เล่น รวมทั้งกุญแจรถจักรยานยนต์ของลูกค้าอีกกว่า 160 ดอก เมื่อตรวจค้นในอาคารพาณิชย์ที่ติดกันพบรถยนต์และรถจักรยานยนต์สภาพกลางเก่ากลางใหม่จอดประกาศขาย แบ่งเป็นรถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 20 คัน
จึงได้ตรวจยึดเอกสารโฉนดที่ดิน คู่มือทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถที่พบทั้งหมด ก่อนจะเรียกเจ้าของรถตามทะเบียนมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ได้นำมาจำนำหรือขายให้กับนายทุนรายนี้จริงหรือไม่ พร้อมจะได้ทำการไกล่เกลี่ยระหว่างนายทุนที่ปล่อยเงินกู้กับลูกหนี้ที่ไปกู้ยืนเงินมาครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ นายนราชิต ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นว่า ได้ประกอบอาชีพรับจำนองที่ดิน รถยนต์ และรถจักรยานมานานกว่า 10 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2-3 บาทต่อเดือน หากเจ้าของไม่มาไถ่ถอนจำนำตามที่ระบุไว้ในสัญญา ก็จะนำสิ่งของเหล่านั้นออกจำหน่าย
เบื้องต้นชุดปราบปรามหนี้นอกระบบ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้แจ้งข้อหานายนราชิต ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกิดกฎหมายกำหนด ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนายนราชิตนายทุนรายนี้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นอกจากชุดปราบปรามหนี้นอกระบบได้เข้าตรวจค้นที่ ร้าน ต.รุ่งเรือง เจ้าหน้าที่อีกชุดก็ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 409/2561 ลงวันที่ 6 ต.ค.2561 เข้าตรวจค้นร้านทองเยาวราช สาขาตลาดหนองบัว ถนนชยางกูร เนื่องจากได้รับการร้องเรียนมีการรับจำนำทองรูปพรรณโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
พร้อมยึดทองรูปพรรณที่มีเจ้าของนำมาจำนำไว้กับทางร้าน และจะได้เชิญเจ้าของทองรูปพรรณมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนดทั้งหมดจำนวนกี่รายต่อไปด้วย