เศร้า! ญาติจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพปู่คออี้ ที่วัดแก่งกระจาน อย่างเรียบง่าย

เพชรบุรี - เศร้า! ญาตินำร่างปู่คออี้ มาบำเพ็ญกุศลที่วัดแก่งกระจาน เนื่องจากเกิดน้ำป่าไหลหลากทางเข้าหมู่บ้าน จึงไม่สามารถนำร่างปู่คออี้กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านได้ บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา

ค่ำวันนี้ ( 5 ต.ค.) ที่ศาลาการเปรียญ วัดแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี นายอุดอน กว่าบุ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256/1 ม.6 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี หลานปู่คออี้ พร้อมด้วยญาติๆ ได้นำร่างของปู่คออี้ ที่เสียชีวิต มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญ วัดแก่งกระจาน โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียงลูกหลานของปู่คออี้ ที่เดินทางไปรับศพปู่คออี้ จากโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี มาที่วัดเท่านั้น ส่วนทางญาติๆ ที่เหลือที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย อำเภอแก่งกระจาน ยังไม่สามารถออกมาจากหมู่บ้านได้ เนื่องจากประสบปัญหาน้ำป่าไหลเข้าท่วมทางเข้าออกหมู่บ้าน จนไม่สามารถเดินทางออกมาจากหมู่บ้านเพื่อมาร่วมงานศพได้

ต่อมา ในเวลา 20.00 น. พระครูอุปถัมภ์วัชรกิจ เจ้าอาวาสวัดแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นเจ้าภาพนำคณะสงฆ์ทั้งวัดสวดพระอภิธรรมคืนแรกให้แก่ครอบครัวปู่คออี้ โดยมี นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอแก่งกระจาน ปลัดอำเภอแก่งกระจาน และคนที่คุ้นเคยกับปู่คออี้เข้าร่วมฟังสวดพระอภิธรรม

นายอุดอน หลานปู่คออี้ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256/1 ม.6 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้งง จ.ราชบุรี กล่าวว่า สำหรับประเพณีชาวกะเหรี่ยง ทางญาติจะนำร่างของปู่คออี้ ไปไว้ที่บ้าน จากนั้นจุดธูปเทียนบูชา นำอาหารคาวหวานมาให้ปู่คออี้ 1 ชุด พร้อมทั้งจัดเตรียมอาหารไว้เลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน โดยตามประเพณีจะตั้งสวดไว้ 3 คืน หรือ 7 คืนก็ได้ แล้วแต่บ้านไหนจะกำหนดจนครบตามกำหนด ก็จะ เคลื่อนย้ายร่างของปู่คออี้ นำไปเผา หรือฝังภายในหมู่บ้านต่อไป

โดยขณะนี้ตนเองและญาติกำลังปรึกษากันว่า ให้ปู่คออี้ อยู่วัดก่อนจนกว่าสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมทางเข้าหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย จะคลี่คลายลง จากนั้นญาติจะนำร่างของปู่คออี้ กลับไปเผาที่บ้านต่อไป ซึ่งคาดว่าในอีก 1-2 วันนี้ ถ้าไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่เพิ่มอีก

“ปู่คออี้” เสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้ออย่างสงบ เมื่อเวลา 04.14 วันที่ 5 ตุลาคม 61 ที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี วัย 107 ปี ซึ่งเป็นผู้อาวุโส เป็นที่นับถือของชาวกะเหรี่ยงบ้านโปร่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ปู่คออี้ เกิดเมื่อ พ.ศ.2454 บริเวณต้นน้ำลำภาชี รอยต่อของ จ.เพชรบุรี และ จ.ราชบุรี บิดาชื่อนายมิมิ และมารดาชื่อนางพีนอคี โดยปู่คออี้ เป็นผู้อาวุโสกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ อาศัยในผืนป่าแก่งกระจาน

นอกจากนี้ ยังเป็นคนนำทางพานักท่องไพรจากกรุงเทพฯ ที่นิยมการเที่ยวป่า ล่าสัตว์ ก่อนที่จะมีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าออกมาบังคับใช้ ต่อมา ในปี 2554 อุทยานฯ ได้เปิดยุทธการตะนาวศรี ผลักดันปู่คออี้ และชาวบ้านบางกลอยทั้งหมดลงมาข้างล่าง โดยได้มีการรื้อเผาที่พัก และยุ้งฉางของชาวกะเหรี่ยง พร้อมทั้งกล่าวหาว่าเป็นชนกลุ่มน้อยจากฝั่งพม่าที่พัวพันยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม ในการอพยพครั้งนี้ ทางการต้องสูญเสียมากมาย เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ตกถึง 3 ลำในเวลาไล่เลี่ยกัน

จากนั้นปู่คออี้ กับพวก 6 คน รวมตัวกันฟ้องร้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และพวก ให้ชดใช้ค่าเสียหาย กรณีเจ้าหน้าที่รื้อเผาทำลายสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สิน กระทั่งเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2561 ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษา ให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ฟ้องคดีที่ 1, 2, 3 และ 6 เป็นเงิน 51,407 บาทต่อราย ผู้ฟ้องคดีที่ 4 เป็นเงิน 45,302 บาท และผู้ฟ้องคดีที่ 5 เป็นเงิน 50,807 บาท

ทั้งนี้ ปู่คออี้ และพวกไม่ได้รับสิทธิกลับเข้าไปอยู่ที่ถิ่นฐานเดิม เนื่องจากศาลเห็นว่าไม่มีหนังสือรับรองสิทธิในที่ดินจากรัฐ ศาลจึงไม่อาจกำหนดบังคับให้กลับไปอยู่ที่เดิมได้ ซึ่งปู่คออี้ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เป้าหมายในการฟ้องไม่ใช่เงิน แต่ต้องการกลับไปอยู่ในถิ่นอาศัยเดิมที่เกิดมาคือ บ้านใจแผ่นดิน

โดยปู่คออี้ เพิ่งได้รับสัญชาติไทย และไปทำบัตรประชาชน ที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2561 นอกจากนี้ ปู่คออี้ยังได้รับรางวัลเกียรติยศ “ผู้อุทิศตนเพื่อสิทธิมนุษยชน” จากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เมื่อปี 2560