เจรจาเบี้ยวค่าจ้างหมอลำไม่ได้ข้อสรุป ออร์แกไนซ์ยันจ่ายเงินครบแล้ว

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ไกล่เกลี่ยเบี้ยวค่าจ้างคณะหมอลำในงานหมอลำคาร์นิวัล 2018 ตกลงกันไม่ได้ ฝ่ายออร์แกไนซ์ยันจ่ายเงินค่าจ้างให้ผู้จัดหาคณะหมอลำครบแล้ว ขณะที่ผู้จัดหายันได้แค่ 4 แสนบาท เตรียมสรุปคำให้การ/หลักฐานแต่ละฝ่ายให้ผู้ว่าฯ ขอนแก่น

วันนี้ (2 ต.ค. ) ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายนรินทร์ เริงสำราญ ผู้จัดหาคณะหมอลำ พร้อมด้วยหัวหน้าคณะหมอลำชื่อดังภาคอีสาน 6 คณะ ที่ร่วมทำการแสดงในงานเทศกาลหมอลำคาร์นิวัล 2018 เดินทางเข้าพบนายชำนาญ ทองดี ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ปากคำและข้อเท็จจริง

กรณีที่มีการร้องเรียนว่าถูกบริษัทออร์แกไนซ์เบี้ยวค่าจ้างในงานเทศกาลหมอลำคาร์นิวัลที่จัดขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-2 เมษายน 61 ที่ผ่านมา ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนเจรจาไกล่เกลี่ยกับคณะผู้บริหารของบริษัท ยูนิตี้ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด ซึ่งวันนี้ ได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นเป็นครั้งแรก หลังจากที่มีการร้องเรียนจากคณะหมอลำมานานกว่า 6 เดือน ซึ่งการเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายต่างให้ข้อมูลไปในทางตรงกันข้าม ทำให้ไม่สามารถเจรจราไกล่เกลี่ยกันได้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นจึงต้องยุติการเจรจา

นายธิชานนท์ ดวงตาผา กรรมการบริหาร บริษัท ยูนิตี้ อีเว้นท์ เอเจนซี่ กล่าวว่า บริษัท ยูนิตี้ได้ทำสัญญาจ้างกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อจัดงานเทศกาลหมอลำคาร์นิวัล 2018 เป็นเงินจำนวน 5,994,500 บาท ซึ่งต่อมาทางบริษัทได้สัญญากับนายนรินทร์ เริงสำราญ ในการจัดหาคณะหมอลำให้มาร่วมทำการแสดงภายในงาน โดยทางบริษัทได้จ่ายเงินค่าจ้างให้ผู้จัดหาคณะหมอลำไปจนครบแล้ว

“วันนี้ได้นำเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย และขอยืนยันว่าทางบริษัทไม่ได้โกงเงินค่าจ้างตามที่ถูกกล่าวหา เพราะการจัดงานแต่ละครั้งไม่ว่าที่ไหน บริษัทในฐานะออร์แกไนเซอร์จะออกค่าใช้จ่ายก่อนอยู่แล้ว รวมทั้งงานหมอลำคาร์นิวัล โดยก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นทางบริษัทได้สอบถามผู้จัดหาคณะหมอลำว่าได้จ่ายค่าจ้างให้กับหมอลำแต่ละคณะหรือยัง ซึ่งก็ได้รับคำยืนยันว่าได้จ่ายไปแล้ว แต่หลังจากที่งานเริ่มกลับมีคณะหมอลำมาทวงถามค่าจ้างกับทางบริษัท” ผู้บริหารบริษัทออร์แกไนซ์กล่าว

ทางบริษัทได้แจ้งกับคณะหมอลำแต่ละคณะว่าได้จ่ายเงินค่าจ้างทั้งหมดไปแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องเช็คเงินสดประมาณ 1 ล้านบาทที่บริษัทได้เซ็นให้กับนายนรินทร์ ก่อนจะมีการอายัดภายหลัง ก็เป็นเช็คเงินสดที่ไม่เกี่ยวข้องกับค่าจ้างคณะหมอลำ แต่เป็นเช็คเงินสดที่นายนรินทร์ได้ร้องขอให้ทางบริษัทออกให้เพื่อนำไปค้ำประกันในการรับงานกับหน่วยงานอื่น แต่ภายหลังได้มีปัญหาเกี่ยวกับข้อตกลง ทำให้ทางบริษัทต้องอายัดเช็คดังกล่าวเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถนำไปขึ้นเงินได้

ด้านนายนรินทร์ เริงสำราญ ผู้จัดหาคณะหมอลำ กล่าวว่า ตนได้ทำสัญญาว่าจ้างกับบริษัท ยูนิตี้ อีเว้นท์ เอเจนซี่ เป็นเงินค่าจ้างจำนวน 4 ล้านบาท โดยทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและมีการลงลายมือชื่อร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 61 ที่ผ่านมา แต่หลังจากที่งานเสร็จสิ้นตนกลับได้รับเงินจากทางบริษัทยูนิตี้ประมาณ 8 แสนบาทเท่านั้น จากสัญญาจ้างที่ทำไว้จำนวน 4 ล้านบาท

เงินที่ได้รับมาตนได้นำมาแบ่งจ่ายให้กับคณะหมอลำไปก่อนบางส่วน เพื่อให้มีทุนในการดูแลสมาชิกในแต่ละคณะ และยืนยันว่ายังไม่ได้รับเงินครบตามจำนวนตามที่ทางบริษัทกล่าวอ้าง ซึ่งหากทางบริษัทยืนยันว่าได้จ่ายให้ครบแล้วก็อยากให้นำหลักฐานการโอนมาแสดงว่าโอนเงินให้ใคร และหากตนได้รับเงินจำนวน 4 ล้านบาทตามสัญญาจ้างจริง คงไม่ออกมาร้องเรียนเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐช่วยตรวจสอบในกรณีนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นจะสรุปคำให้การและเอกสารหลักฐานจากผู้ที่เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายเสนอต่อนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เพื่อพิจารณาสั่งการตามขั้นตอนต่อไป เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ในขั้นตอนการเจรจาของศูนย์ดำรงธรรม เพราะต่างฝ่ายต่างให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ซึ่งหลังจากนี้หากฝ่ายผู้ร้องต้องการใช้สิทธิทางศาลเพื่อฟ้องร้องทางกฎหมายก็สามารถทำได้ทันที