xs
xsm
sm
md
lg

เปิดกรุสมบัติ “วัดบางคลาน” พบทะลุร้อยล้านแล้ว ไม่รวมพระเครื่อง “หลวงพ่อเงิน” อีกเป็นหมื่น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พิจิตร - อึ้ง..ปฏิบัติการตรวจทรัพย์สินวัดบางคลาน นับยังไม่หมดพบเงินฝาก-หุ้นกู้-พันธบัตรรัฐบาล-เงินบริจาค รวมทะลุร้อยล้านแล้ว ยังไม่รวมตู้เซฟที่ยังเปิดไม่ได้อีก 3 ตู้-พระเครื่องหลวงพ่อเงินอีกเป็นหมื่นองค์ ศรัทธาอดีตเจ้าอาวาสครวญโดนฟ้องกันระนาว



ความคืบหน้ากรณีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร หลังมหาเถรสมาคมมีคำสั่งปลดพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ก่อนแต่งตั้งพระครูพิสุทธิวรากรให้มาดำรงตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาส

แต่เกิดข้อขัดแย้งขึ้นระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนอดีตเจ้าอาวาสกับรักษาการเจ้าอาวาสมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีการแจ้งความฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันหลายสิบคดี รวมทั้งมีการรวมตัวกันต่อต้านไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทรัพย์สิน-วัตถุมงคลภายในวัด จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ และจนถึงวันนี้ (28 ก.ย.) ก็ยังคงมีชาวบ้านที่ศรัทธาอดีตเจ้าอาวาสหมุนเวียนกันเข้าสังเกตการณ์ที่วัดทุกวัน

ล่าสุดนายกิจชัย บุญปู่ ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายพระครูพิสุทธิวรากร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ได้ให้ข้อมูลถึงการติดตามรวบรวมเงินบริจาค วัตถุมงคล และทรัพย์สิน นับตั้งแต่พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม เข้ามารับหน้าที่

นายกิจชัยระบุว่า จากการดำเนินการตามกระบวนการพิจารณาศาลจังหวัดพิจิตรที่ให้อดีตเจ้าอาวาสและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องส่งมอบบัญชีเงินฝาก เงินสด วัตถุมงคล และอื่นๆ ให้รักษาการเจ้าอาวาสดำเนินการต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้มีการรวบรวมเงินของวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน แล้ว

พบว่าวัดมีเงินฝากอยู่ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นบัญชีออมทรัพย์ 4 บัญชี รวมเป็นเงิน 9,980,680.28 บาท, บัญชีเงินฝากประจำ 4 บัญชี รวมเป็นเงิน 29,425,768.44 บาท รวม 8 บัญชี เป็นเงิน 39,406,448.72 บาท เมื่อนำสมุดไปปรับบัญชีพบว่าทั้ง 8 บัญชีได้ดอกเบี้ยเข้ามาอีก 223,041.14 บาท และเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 61 ก็ได้เปิดตู้บริจาคภายในวัดตรวจนับได้เงิน 6,189,703 บาท และยังได้ขอรับเงินพันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่อดีตเจ้าอาวาสฯ ซื้อเอาไว้เป็นเงิน 16 ล้านบาท

รวมเงินจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์, บัญชีเงินฝากประจำ, ดอกเบี้ยที่ได้จาก 8 บัญชี, เงินจากตู้บริจาค, เงินจากพันธบัตรรัฐบาล ทั้ง 5 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 61,819,192.86 บาท

นายกิจชัยกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนี้ก็ได้ตรวจสอบเงินของวัดที่ฝากไว้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาบางมูลนาก อีก 10 บัญชี เป็นเงิน 42,674,772 บาท อีกทั้งพบการซื้อหุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 55 วงเงิน 7.1 ล้านบาท ซึ่งใบหุ้นฉบับนี้จะครบกำหนดได้รับเงินคืนปี พ.ศ. 2565

ส่วนเรื่องการตรวจนับวัตถุโบราณและวัตถุมงคล พบงาช้าง 16 กิ่ง, พระบูชาหลวงพ่อเงินมีพัดขนาด 9 นิ้ว 275 องค์, พระเครื่องชุดต่างๆ จำนวนเกือบ 1 หมื่นชิ้น

ทั้งยังพบอีกว่าอดีตเจ้าอาวาสได้นำเงินไปซื้อประกันชีวิตเมื่อปี 2557 จ่ายเบี้ยประกันปีละ 1 ล้านบาท เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งจ่ายเงินไปแล้วเฉพาะปี 2557-2559 เป็นเงิน 3 ล้านบาท แต่ในกรมธรรม์ได้แสดงเจตนาว่าผู้รับผลประโยชน์คือ วัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน


ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายพระครูพิสุทธิวรากร รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังมีตู้เซฟอีกประมาณ 3 ตู้ และบัญชีเงินฝากอีกหลายรายการ ที่ยังไม่มีการส่งมอบกุญแจตู้เซฟ รหัสเปิดตู้เซฟ บัญชีเงินฝาก ซึ่งต้องขอร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามข้อตกลงที่ทำกันไว้ที่ศาล

นายกิจชัยกล่าวย้ำว่า การดำเนินการดังกล่าวข้างต้นนี้ไม่ได้กล่าวหาว่าใครเป็นผู้ทุจริต แต่ทำเพื่อสร้างความโปร่งใสให้สาธารณชนได้รับรู้ต่อไป ซึ่งถ้าการตรวจนับวัตถุมงคล, พระเครื่องพระบูชา หรือเงินสด เงินฝากในบัญชีต่างๆ เสร็จแล้วก็จะได้รวบรวมบัญชีเงินฝากทุกประเภทที่มีอยู่ทำเป็นบัญชีเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ จากนั้นมหาเถรสมาคมและคณะสงฆ์ก็จะได้เข้าสู่กระบวนการคัดสรรเจ้าอาวาสรูปใหม่ของวัดหิรัญญารามหรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เพื่อจะได้เข้ามาพัฒนาวัดหลวงพ่อเงินต่อไป

ขณะที่ฝ่ายให้การสนับสนุนอดีตเจ้าอาวาส โดยเฉพาะแกนนำ 30 ราย ได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ เนื่องจากขณะนี้ถูกผู้ที่สนับสนุนรักษาการเจ้าอาวาส แจ้งความดำเนินคดีหลายข้อหานับสิบคดีจนได้รับความเดือดร้อนกันทั่ว

กำลังโหลดความคิดเห็น