แพร่ - ชาวช่อแฮนับพันแห่ดู จนท.ขุดศพเศรษฐีฝรั่งกับเมียชาวไทย สุดสลด..พี่แท้ๆ บงการฆ่าจ้าง “เสือทอง” ยิงน้องเขยฝรั่ง-ให้อีกคนจับน้อง ก่อนทุบหัวกะโหลกยุบ ลากศพฝังดินลึก 3 ม.อำพรางคดี แต่เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ
วันนี้ (25 ก.ย.) พล.ต.ท.พูนทรัพย์ ประเสริญศักดิ์ ผบช.ภ.5 ได้เดินทางมาดูและกำกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีฆ่าโหดสามีภรรยา Mr.Alan Scott Hogg ชาวอังกฤษ และนางหน็อต สุดแดน ภรรยาชาวไทย หมกศพฝังดินบริเวณเล้าเป็ด ริมลำห้วยกวางเน่า เขตบ้านเลขที่ 207/4 หมู่ 6 ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ ตลอดทั้งวัน
ระหว่างชุดสืบสวนคลี่คลายคดี สภ.พระธาตุช่อแฮ, ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ และตำรวจภูธรภาค 5 นำรถแบ็กโฮขนาดใหญ่เข้ามาขุดบริเวณที่สงสัยว่ามีการนำศพมาฝังดินอำพรางในช่วงสายที่ผ่านมาอีกครั้ง เมื่อขุดลงไปลึกกว่า 2 เมตรก็มีกลิ่นเหม็นโชยขึ้นมาทำให้มั่นใจว่าต้องพบร่างแน่นอน จึงขุดต่อไปเพียงครู่เดียวก็พบร่างของสามีภรรยาที่หายไปจากบ้านตั้งแต่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางชาว ต.ช่อแฮ ที่พากันมาดูการขุดค้นหาศพกันนับพันคน
เจ้าหน้าที่นิติเวช และกองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยได้เข้ามาทำหน้าที่เก็บหลักฐานและชันสูตรศพโดยละเอียด พบว่า Mr.Alan Scott Hogg ถูกปืนลูกซองสั้นยิง กระสุนเข้าเป็นกระจุกที่หน้าและอก เป็นการยิงเพียงนัดเดียว ส่วนนางหน็อต สุดแดน กะโหลกท้ายทอยยุบ เนื่องจากถูกตีด้วยประแจ (เครื่องมือช่างขนาดใหญ่) จนกะโหลกแตกเสียชีวิต
การขุดและนำศพขึ้นจากหลุมเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้มีการเผยแพร่ภาพไม่เหมาะสม โดยมีการนำผ้าและถุงซิปเข้าบังไม่ให้มีการถ่ายรูปสภาพศพ เพื่อรักษาสิทธิของผู้เสียชีวิต โดยมีน้องชายของ Mr.Alan ผู้เสียชีวิตร่วมสังเกตการณ์ตลอดเวลา ก่อนที่จะนำศพไปเก็บไว้ไที่โรงพยาบาลแพร่ รอการพิสูจน์โดยละเอียด และส่งมอบให้ญาติไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป
หลังจากการพบศพสามีภรรยาทำให้คดีคลี่คลาย มีพยานวัตถุที่จะอ้างอิงได้ว่ามีการกระทำผิดจริง ร.ต.อ.อมร ขว้างแป้ง พงส.สภ.แพร่ ผู้รับผิดชอบคดี ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับและคุมตัวผู้บงการ คือนายวารุต รัตนสัจจกิจ หรือหนานหนัด อายุ 63 ปี ผู้บงการฆ่า, นายเปี้ยะ คำใส หรือเสือทอง อายุ 63 ปี ชาว ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ มือปืนผู้ลงมือสังหาร Mr. Alan และนายกิตติพงษ์ คำวัน หรือใหญ่ อายุ 24 ปี ชาว ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ ผู้ร่วมกระทำผิด ที่เป็นคนจับกุมนางหน็อตให้นายวารุตใช้เครื่องมือช่างตีที่ศีรษะด้านหลังจนถึงแก่ความตาย ก่อนช่วยกันอำพรางศพโดยการลากทั้งสองคนไปลงหลุมที่เตรียมไว้แล้ว
ต่อมา พล.ต.ท.พูนทรัพย์ ประเสริญศักดิ์ ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.สรรภัทร ปราบพุฒซา ผบก.ภจว.แพร่, นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย, พ.อ.ชินทัศน์ หมวกละมัย รอง ผอ.กอ.รมน.แพร่, พ.ต.อ.คงเดช วิวัฒนชัย รอง ผกก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ สว่างประเสริฐ ผกก.สภ.พระธาตุช่อแฮ, พ.ต.อ.ชลทฤษ ชัชวาลย์ ผกก.สภ.เมืองแพร่, พ.ต.ท.มนัส เกิดสุโข ผกก.สส.ภจว.แพร่, พ.ต.อ.ทองสุข จรัลพงษ์ รอง ผบก.ภจว.แพร่ ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่หน้า สภ.พระธาตุช่อแฮ
พล.ต.ท.พูนทรัพย์กล่าวว่า กรณีที่ Mr.Alan และนางหน็อต ที่หายไปจากบ้านนั้น แนวทางของตำรวจคือ ต้องหาตัวให้เจอก่อน ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือเสียชีวิตไปแล้ว ขณะนี้ได้พบแล้วว่าเสียชีวิตทั้งสอง จึงได้เริ่มต้นคดีฆ่าผู้อื่น และเมื่อพยานหลักฐานพร้อมจึงขออนุมัติต่อศาลจังหวัดแพร่ออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิด 3 คนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ดำเนินการควบคุมตัวและแจ้งให้ทราบถึงหมายการจับกุม ซึ่งนายเปี้ยะ และนายกิตติพงษ์ยอมรับสารภาพ ส่วนนายวารุตยังให้การภาคเสธ บางส่วนรับบางส่วนไม่รับ แต่เบื้องต้นทราบว่านายวารุตเป็นผู้จ้างวานนายเปี้ยะ คำใส หรือเสือทอง อายุ 63 ปี มือปืนเป็นเงิน 50,000 บาท นายเปี้ยะ แบ่งให้นายกิตติพงษ์จำนวน 3,000 บาทเท่านั้น
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ 18.00 น.วันที่ 18 ก.ย. ขณะที่ Mr.Alan นำอาหารไปเลี้ยงเป็ด นายเปี้ยะได้เข้าไปประชิดตัวแล้วยิงด้วยปืนลูกซองสั้น 1 นัด จน Mr.Alan เสียชีวิตทันที ส่วนนางหน็อตที่อยู่บริเวณสระน้ำได้ยินเสียงปืนก็ถูกนายกิตติพงษ์เข้าล็อกตัว และนายวารุต พี่ชายนางหน็อต เป็นผู้ใช้เครื่องมือช่างตีที่ท้ายทอยจนกะโหลกแตกเสียชีวิต
จากนั้นนำศพทั้งสองไปรวมกันที่ริมลำห้วยกวางเน่า มีการล้างคราบเลือดบริเวณสระน้ำ และใช้รถแบ็กโฮของบ้าน Mr.Alan ขุดหลุมริมลำห้วยจนน้ำมันรถหมด จึงออกไปซื้อน้ำมันรถมาเติมและขุดต่อ นำร่างของทั้งสองลงหลุมใช้รถแบ็กโฮตักหินเข้าทับ และนำดินกลบจนผิวดินอยู่ในสภาพปกติ ปฏิบัติการเสร็จในเวลา 20.00 น.ของวันที่ 18 ก.ย. ก่อนมือปืนได้เดินทางกลับบ้าน โดยนำปืนลูกซองสั้นโยนทิ้งลำห้วยแถวๆ รอยต่อเขต อ.ลอง-อ.วังชิ้น เพื่อทำลายหลักฐาน
กระทั่งรุ่งเช้า (19 ก.ย.)นายวารุต จึงนำรถฟอร์ด 4 ประตูของ Mr.Alan เข้าสู่กระบวนการจำหน่าย ซึ่งการจำหน่ายรถของกลาง ถือเป็นอีกคดีที่ทั้งหมดในการะบวนการซื้อรถไม่รู้เห็นกับแผนการสังหารโหดครั้งนี้ จึงแยกออกเป็น 2 ส่วน ไม่เกี่ยวกัน ผู้ต้องหาคดีรับของโจร ลักทรัพย์เป็นอีกคดีนึง แต่นายวารุต เกี่ยวข้องทั้งสองคดี
พล.ต.ท.พูนทรัพย์กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องภายในครอบครัวที่มีปัญหากันเอง ซึ่งเดิมชาวต่างชาติไม่เข้าใจกระบวนการทำงานของทางราชการ และการสื่อสารในสมัยใหม่มีหลากหลายทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่เมื่ออธิบายให้ฟังแล้ว รวมทั้งการดำเนินคดีที่ใช้เวลาพอสมควรทำให้ปัญหาคลี่คลาย จึงไม่กระทบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์เมืองสงบของจังหวัดแพร่อย่างแน่นอน
“แพร่ยังเป็นเมืองน่าอยู่ให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาพักชั่วคราว หรืออยู่อย่างถาวรในบั้นปลายชีวิตก็ย่อมทำได้ ตำรวจจะเป็นกำลังสำคัญในการดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่” พล.ต.ท.พูนทรัพย์กล่าว
