xs
xsm
sm
md
lg

รวบหนุ่มวิศวะผันตัวเป็นโจร! ร่วมคู่หูตระเวนขโมยแบตฯ เสาส่งสัญญาณมือถือ วันเดียว 28 ลูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ รวบหนุ่มวิศวะเจ้าของบริษัท พร้อมคู่หูผันตัวเป็นโจร ขับกระบะตระเวนขโมยแบตเตอรี่สำรองไฟเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือหลายจังหวัดอีสาน วันเดียว 28 ลูก ก่อนนำไปขายร้านรับซื้อของเก่า

วันนี้ (22 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ ได้ร่วมกันจับกุม นายวัชรินทร์ คลังทรัพย์ อายุ 30 ปี และนายอภิชัย หลั่งทองหลาง อายุ 21 ปี ชาว อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ขณะทั้งสองกำลังร่วมกันก่อเหตุลักขโมยแบตเตอรี่สำรองไฟเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ได้ที่บริเวณถนนโชคชัย-เดชอุดม ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์


ได้พร้อมของกลางแบตเตอรี่ที่ขโมยมาเพียงวันเดียว 28 ลูก สายพ่วงแบตเตอรี่สำรองไฟ 3 ชุด เหล็กชะแลง 1 อัน กรรไกรตัดเหล็ก 2 ตัว ค้อน 1 อัน คีมปากจิ้งจก 1 อัน กุญแจบล็อก 1 อัน ถุงมือสีขาว 1 คู่ และกุญแจเปิดตู้ระบบเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถืออีก 1 อัน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมถึงได้ยึดรถกระบะมีหลังคา ยี่ห้อมาสด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน ยข 3717 นครราชสีมา ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ

จากการสอบถาม นายวัชรินทร์ ให้การว่า ตนจบวิศวกร สาขาโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่ จ.นครราชสีมา ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัทซับคอนแทร็กเกี่ยวกับโทรคมนาคม จึงมีความรู้เรื่องกลไกของเสาเครือข่ายส่งสัญญาณมือถือเป็นอย่างดี และรู้ว่าแต่ละสถานีฐานเครือข่ายส่งจะมีแบตเตอรี่สำรองไฟอยู่จุดละ 4-8 ลูก จึงได้ชักชวนนายอภิชัย ขับรถตระเวนลักขโมยแบตเตอรี่สำรองไฟเสาส่งสัญญาณมือถือทั้งในเขต จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ และ จ.นครราชสีมา โดยล่าสุด ได้เข้าไปลักขโมยในเขตอำเภอชำนิ ลำปลายมาศ นางรอง หนองกี่ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ โดยแบตเตอรี่ที่ขโมยมาได้จะนำไปขายต่อตามร้านรับซื้อของเก่า และขายให้กลุ่มที่ต้องการนำไปติดตั้งรถแห่เครื่องเสียงในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ในราคาลูกละ 500-600 บาท ทำมาแล้ว 3 ครั้งได้เงินครั้งละกว่า 10,000 บาท

หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งสองส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ (แบตเตอรี่สำรองไฟเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ) โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร”




กำลังโหลดความคิดเห็น