บุรีรัมย์ - แม่ยายบุรีรัมย์ถูกลูกเขยฟ้องยักยอกหวย 12 ล้าน พร้อมทนายเดินหน้าแจ้งความเอาผิดลูกเขย ฐานแจ้งความเท็จและพรากผู้เยาว์ พร้อมรับคำท้าสาบาหน้าย่าโมมั่นใจในบริสุทธิ์ ขณะ ตร.ค้นบ้านหาหวยเจ้าปัญหาตามร้องขอไม่พบสิ่งผิดปกติ
วันนี้ (15 ก.ย. ) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 44 ปี ชาวบ้านหนองไผ่ ต.เสาเดียว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแม่ยายของเยาวชนวัย 15 ปี พร้อมด้วย น.ส.สมศรี สายสมคุณ อายุ 21 ปี บุตรสาวคนโตของนางมานิตย์ และนางฉวีวรรณ ลูกจันทร์ อายุ 30 ปี หลานสาวของนางมานิตย์ ที่ถูกฟ้องร้องและแจ้งความกล่าวหาว่ายักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 หมายเลข 412073 งวดประจำวันที่ 1 เม.ย. 2561 จำนวน 2 ใบ เป็นเงินรางวัล 12 ล้านบาท ได้เดินทางไปสภ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อแจ้งความเอาผิดกับลูกเขย ในข้อหา “แจ้งความเท็จให้ผู้อื่นต้องรับโทษทางอาญา และพรากผู้เยาว์” บุตรสาวอายุ 14 ปี
จากที่เมื่อวานนี้ได้เดินทางไปขอคัดคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนางรอง หลังจากศาลได้ยกคำร้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีดังกล่าวไปแล้วเมื่อปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนำไปเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.นางรอง ในข้อหา “ฟ้องเท็จ และเบิกความเท็จ”
ทนายรณรงค์ กล่าวว่า ที่พาป้ามานิตย์ มาแจ้งความที่ สภ.หนองหงส์ วันนี้เพื่อเอาผิดกับลูกเขย ในข้อหาแจ้งความเท็จ และพรากผู้เยาว์ พร้อมทั้งได้นำหลักฐานต้นขั้วลอตเตอรี่ และการขึ้นเงินรางวัลของผู้ที่ถูกรางวัลตัวจริง จากกองสลากฯ มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ทั้งนี้ยังได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นบ้านของนางมานิตย์ เพื่อหาลอตเตอรี่เจ้าปัญหาที่ลูกเขยกล่าวอ้างว่าแม่ยายยักยอกมา เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วย
ขณะที่นางมานิตย์ ออกมาระบุถึงกรณีที่แม่ของลูกเขย ประกาศท้าให้ไปสาบานต่อหน้าย่าโมที่ จ.นครราชสีมา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ยักยอกลอตเตอรี่ดังกล่าวไปนั้น ตนรับคำท้าขอให้นัดวัน เวลามา พร้อมจะเดินทางไปทันที เพราะตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ยักยอก และไม่เคยเห็นลอตเตอรี่ตามที่ลูกเขยกล่าวอ้างถึงเลย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือน เม.ย. ทางแม่ของลูกเขย เคยให้ตนไปสาบานต่อหน้าศาลปู่ ตาแล้ว ซึ่งตนสาบานไปแล้วแต่ฝั่งนั่นยังไม่พอใจอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านนางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 44 ปี แม่ยายของเยาวชนวัย 15 ปี ที่ถูกลูกเขยฟ้องร้องและแจ้งความกล่าวหายักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 เม.ย. 2561 จำนวน 2 ใบ เป็นเงินรางวัล 12 ล้านบาท ภายหลังทนายความ และนางมานิตย์ ได้แจ้งความกลับลูกเขยฐาน “แจ้งความเท็จ และพรากผู้เยาว์” พร้อมร้องขอให้เข้าตรวจค้นบ้านนางมานิตย์ ผู้ถูกกล่าวหาเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ยักยอกลอตเตอรี่ตามที่ลูกเขยกล่าวอ้าง
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบริเวณชั้น 2 ของบ้าน ที่นางมานิตย์ นอนเป็นประจำทุกวัน ซึ่งมีลักษณะโล่ง ไม่ได้มีการกั้นเป็นห้องนอนมีเพียงมุ้งสำหรับกางนอนเท่านั้น พร้อมทั้งได้ค้นบริเวณห้องด้านล่างซึ่งเป็นห้องนอนของมารดา นางมานิตย์ ที่แก่ชราแล้ว รวมถึงห้องครัวด้วย การเข้าตรวจค้นครั้งนี้มีนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าว เป็นพยานในการเข้าตรวจค้นด้วย
ร.ต.อ.มณเทียร จิตรบุญศรี รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.หนองหงส์ ระบุว่า การเข้าตรวจค้นบ้านนางมานิตย์ในครั้ง ไม่พบสลากลอตเตอรี่ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านของนางมานิตย์ ที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด พบเพียงสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชี ธ.ก.ส. เอกสารสำคัญต่างๆ และข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเท่านั้น และไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด โดยเฉพาะการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของนางมานิตย์ ก็ไม่พบสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทั้งไม่พบห้องที่จะใช้สำหรับกักขังลูกสาววัย 14 ปี เพื่อไม่ให้ออกไปหาลูกเขยวัย 15 ปี ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
ด้าน นางมานิตย์ บอกว่า ที่อยากให้เจ้าหน้าที่มาตรวจค้นบ้านเพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้ยักยอกหรือซุกซ่อนลอตเตอรี่ตามที่ลูกเขยกล่าวหาเลย แต่ยอมรับว่าวันที่ 1 เม.ย.2561 ลูกสาวได้เข้ามาหาตัวเองที่บ้านจริง แต่มาขอเงินเท่านั้น ไม่ได้เอาอะไรมาให้ และเข้ามาเพียงคนเดียว ส่วนลูกเขยจอดรออยู่ถนนข้างบ้านไม่ได้เข้ามาด้วย และยืนยันว่าไม่เคยกักขังลูกสาวตามที่ถูกใส่ร้าย ที่ผ่านมามีแต่ตามใจลูกตลอด แต่ไม่รู้ว่าทำไมลูกสาวและลูกเขยถึงมากล่าวหาใส่ร้ายตัวเองแบบนี้