มีแต่ทรงกับทรุด! เถ้าแก่โรงสีพิจิตรหยุดรับซื้อข้าวหนีขาดทุนระนาว

พิจิตร - ราคาข้าวมีแต่ทรงกับทรุด...เถ้าแก่โรงสีใหญ่ทั่วเมืองชาละวันประกาศหยุดรับซื้อข้าวชาวนาหนีขาดทุนแล้วเกือบ 20 ราย เปิดรับซื้อตลอดแค่ 8 ราย อีก 9 รายซื้อตามฤกษ์สะดวก บอกขืนซื้อข้าวสีขายมีขาดทุนเห็นๆ



นางมิ่งขวัญ พุกเปี่ยม หรือเจ๊หนิง ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.พิจิตร เปิดเผยถึงภาวะวิกฤตของโรงสีข้าวพื้นที่พิจิตรที่มีผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดมากว่า 1 ล้านตันต่อปี ว่าก่อนหน้านี้ชมรมโรงสีข้าวพิจิตรมีสมาชิกมากถึง 34 โรง แต่ปีนี้มีโรงสีปิดกิจการ และยังคงเป็นสมาชิกชมรมโรงสีข้าวพิจิตร เหลืออยู่แค่เพียง 29 แห่ง และมีเพียง 8 แห่งที่รับซื้อข้าวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง อีก 9 แห่งที่รับซื้อแบบเปิดๆ ปิดๆ ส่วนที่เหลืออีก 17 แห่ง ตอนนี้หยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาแบบสิ้นเชิง แต่ก็ยังต่อใบอนุญาตการประกอบการอยู่

นางมิ่งขวัญกล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาสมาชิกในชมรมโรงสีข้าวพิจิตรทั้ง 29 แห่งก็เปิดรับซื้อข้าวนาปี ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 ช่วงนั้นเปิดรับซื้อข้าวเกี่ยวสด 25% ตามนโยบายที่รัฐบาล ในราคาตันละ 6,400-6,500 บาท ถ้าคิดเป็นข้าวแห้งความชื้น 15% ก็ตกอยู่ในราคาตันละ 7,500 บาท เพื่อจะแปรรูปขายให้แก่ผู้ส่งออกต่างประเทศ

แต่ปรากฏว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ราคาข้าวมีแต่ทรงกับทรุด สีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารขายก็มีแต่ขาดทุน จึงเป็นเหตุให้โรงสีหลายแห่งหยุดแปรรูป และหยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาดังกล่าว รวมทั้งหลายแห่งก็เลิกจ้างคนงาน เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

นายวิรัตน์ ลิ่มทองสมใจ กรรมการผู้จัดการบริษัท โรงสีสิงโตทองไรซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ที่เป็นโรงสีขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิตถึงวันละ 2,000 ตัน มีคนงานนับร้อยคน วันนี้ก็ออกมาประกาศขอหยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาเป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่า โรงสีของตนเปิดรับซื้อข้าวนาปี-นาปรัง ของชาวนา อ.เมืองพิจิตร อ.โพธิ์ประทับช้าง และพื้นที่ข้างเคียงมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 ซื้อข้าวเปลือกจากชาวนามาอบให้แห้งแล้วเก็บเข้าโกดังไปแล้วประมาณ 5 หมื่นตัน โดยในช่วงนั้นรับซื้อข้าวเปลือกเกี่ยวสดรับซื้อตันละประมาณ 6,600 บาท แต่ถ้าคิดเป็นข้าวแห้งความชื้น 15% ชาวนาก็ได้ราคาตันละ 7,800 บาท สีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารขายไปแล้ว 2 หมื่นตัน ยังคงเหลือข้าวเปลือกอยู่ในสต็อกกว่า 3 หมื่นตัน ที่ต้องเก็บยาวมาเกือบ 3 เดือนแล้ว เพราะขายไม่ออก

“ราคาข้าวเปลือกวันนี้รับซื้อข้าวสดแค่ 6,400 บาท เป็นข้าวแห้งก็รับซื้อ 7,500 บาท สรุปได้ว่าวันนี้ขาดทุนเห็นๆ ตันละ 300 บาท ยังไม่คิดค่าแรงคนงาน ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าบริหารจัดการ”

นายวิรัตน์กล่าวว่า ปัญหาของโรงสีและธุรกิจค้าข้าวในขณะนี้เกิดจากปริมาณข้าวที่มีมากแต่ส่งออกได้น้อย ถามว่าวันนี้ยังมีคนรับซื้อข้าวสารเพื่อส่งออกหรือไม่ คำตอบก็คือยังมีคนต้องการรับซื้อข้าวสาร แต่ให้ราคาถูกเหลือเกิน ขืนเปิดเครื่อง เปิดโรงสีรับซื้อข้าวจากชาวนาแล้วสีเป็นข้าวสารขายในตอนนี้ก็มีแต่ขาดทุน จึงต้องประกาศหยุดรับซื้อข้าวจากชาวนาเป็นการชั่วคราว