xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านบางคล้าไม่พอใจ จนท.สำนักพุทธฯ สอบลับเจ้าอาวาสวัดพุทธพรหมญาณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ฉะเชิงเทรา- ชาวบางคล้าไม่พอใจสำนักพุทธฯ ควงวัฒนธรรมอำเภอ ย่องสอบลับเจ้าอาวาสวัดพุทธพรหมญาณ หลังถูกร้องเรียนไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการการก่อสร้างซ่อมแซมพุทธสถานภายในวัดปากน้ำ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาอยู่ ชี้ต้องให้ชาวบ้านได้รับรู้ข้อมูล


จากกรณีที่ได้มีประชาชนกลุ่มหนึ่งยื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้ทำการตรวจสอบ พระปลัดเอกลักษณ์ ปัญญาคโม พรรษา 16 อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธพรหมญาณ ที่ตั้งอยู่บนเกาะลัดกลางแม่น้ำบางปะกง ต.บางตลาด อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา และยังเป็นที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เกี่ยวกับการบริหารจัดการและกำกับดูแลการก่อสร้างซ่อมแซมพุทธสถาน รวมทั้งการดูแลเงินบริจาคที่เป็นรายได้ของวัด และการนำเงินของวัดไปซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างวัดอีกแห่งบนเกาะลัดกลางแม่น้ำบางปะกง จนทำให้เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ฉะเชิงเทรา และวัฒนธรรมอำเภอบางคล้า ต้องเดินทางลงพื้นที่เพื่อทำการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น

ล่าสุด วันนี้ (8 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน อ.บางคล้า กว่า 30 คน ได้พากันเดินทางมารวมตัวที่วัดปากน้ำ (โจ้โล้) ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 51 ม.7 ต.ปากน้ำ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเรียกร้องให้คณะกรรมการสอบสวนทำการสอบสวน พระปลัดเอกลักษณ์ ปัญญาคโม โดยเปิดเผยต่อสาธารณชน เนื่องจากชาวบ้านต้องการมีส่วนร่วมในการรับฟังและแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของ พระปลัดเอกลักษณ์ และไขข้อข้องใจต่อข้อร้องเรียนต่างๆ โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินในการก่อสร้างซ่อมแซมสิ่งต่างๆ ภายในวัด

ทำให้เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ฉะเชิงเทรา ต้องชี้แจงต่อชาวบ้านว่า การเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของผู้บริหารที่ต้องการให้ตรวจสอบในทางลับ จึงไม่สามารถทำการสอบสวนต่อหน้าสาธารณชนตามที่ชาวบ้านต้องการได้ และยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับผลการสอบสวนได้เช่นกัน
 
ทั้งนี้ วัดปากน้ำ เดิมเป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม และขาดการบูรณปฏิสังขรณ์มานานหลายสิบปี และที่ผ่านมา ยังมักถูกน้ำท่วมเป็นประจำ ทำให้ พระปลัดเอกลักษณ์ ปัญญาคโม ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงและเทคอนกรีตภายในวัด พร้อมบูรณะโบสถ์ใหม่เกือบทั้งหลังให้เป็นสีทอง และพัฒนาสิ่งต่างๆ ภายในวัดพร้อมทาสีเหลืองทองจนทั่วทั้งวัด เป็นที่โดดเด่นสะดุดตาจนได้รับความสนใจจากประชาชน และนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

ที่สำคัญ วัดแห่งนี้ยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว และแสวงบุญในลำดับต้นๆ ของ จ.ฉะเชิงเทรา รองลงมาจาก วัดโสธรวรารามวรวิหาร วัดสมานรัตนาราม และวัดโพรงอากาศ





กำลังโหลดความคิดเห็น