xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านร้องถูกเต็นท์รถรายใหญ่บุรีรัมย์ฉ้อโกง ตร.กองปราบบุกค้นอายัดอื้อกว่า 230 คัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บุรีรัมย์- ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านหอบหลักฐานบุกร้องศูนย์รับเรื่องรางร้องทุกข์ฯ ตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ถูกเต็นท์รถรายใหญ่ฉ้อโกงหลายรูปแบบ สูญทั้งเงินทั้งรถ แถมถูกไฟแนนซ์ฟ้อง ขณะ ตร.กองปราบ บุกค้นอายัดรถกว่า 230 คัน

วันนี้ (7 ก.ย.) ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านทั้งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินโดยสัญญาไม่เป็นธรรม ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือ หลังถูกเต็นท์รถรายใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ หลอกลวงฉ้อโกงในหลายรูปแบบ เช่น บางรายตั้งใจนำรถไปขายให้แก่เต็นท์ แต่ทางเต็นท์กลับหลอกล่อให้ตีเทิร์น โดยใช้อุบายหลอกให้ลูกค้าเลือกเอารถมือสองคันอื่นในเต็นท์ แล้วจะจ่ายส่วนต่างที่รับซื้อรถให้ เมื่อลูกค้าหลงเชื่อก็ให้ทำสัญญาซื้อขาย จากนั้นให้ลูกค้านำรถคันที่ตกลงตีเทิร์นไปทดลองใช้หากไม่พอใจก็ให้นำมาเปลี่ยนคืน แต่เมื่อลูกค้านำรถไปลองแล้วรถมีปัญหาจึงนำมาขอเปลี่ยนรถคันเดิมคืน ทางเต็นท์กลับบ่ายเบี่ยงอ้างว่าได้ขายรถไปแล้ว หากอยากได้รถคืนต้องจ่ายเงินเพิ่ม

ขณะที่บางรายนำรถมาตีเทิร์นที่เต็นท์ เมื่อทำสัญญาเช่าซื้อเรียบร้อยพอนำรถไปใช้ตามปกติ กลับมีหนังสือจากบริษัทไฟแนนซ์ส่งมาทวงค่างวดที่บ้าน เนื่องจากทางเต็นท์ไม่ได้เคลียร์ค่างวดที่ค้างอยู่กับไฟแนนซ์ จนทำให้ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำถูกฟ้องร้อง

นอกจากนั้น บางรายนำรถไปขายที่เต็นท์แต่เมื่อตกลงราคา และทำสัญญาซื้อขายเรียบร้อย ทางเต็นท์กลับจ่ายเงินให้เพียงบางส่วน ที่เหลืออ้างว่าจะโอนให้ทีหลังแต่กลับไม่โอนให้ตามที่รับปาก สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้พากันมาร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากที่ผ่านมา เคยแจ้งความ และร้องเรียนหลายหน่วยงานแต่เรื่องเงียบหาย

นายสำเริง (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งบอกว่า ตนได้นำรถ 6 ล้อดัมป์ ไปขายให้แก่เต็นท์รถดังกล่าวเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2561 ตกลงซื้อขายกันในราคา 660,000 บาท โดยวันที่ทำสัญญาซื้อขายทางเต็นท์กลับจ่ายเงินสดมัดจำให้เพียง 10,000 บาท อ้างที่เหลือจะโอนเข้าบัญชีให้ หลังจากนั้นทางเต็นท์ได้โอนเงินเข้าบัญชีให้เพียง 50,000 บาท แล้วบอกว่าจะทยอยโอนที่เหลือให้อีกเพราะยังไม่มีเงินก้อนจ่ายให้ ซึ่งตนจำใจต้องรอทั้งที่ตอนซื้อขายตกลงจะจ่ายให้เป็นก้อนเดียว สุดท้ายทางเต็นท์จ่ายเงินซื้อขายรถให้เพียง 160,000 บาท ที่เหลืออีก 500,000 บาทไม่ยอมจ่ายอ้างว่าเต็นท์ขาดสภาพคล่องหากอยากได้ให้ไปฟ้องร้องเอาเอง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนภาค 3 และตำรวจกองปราบปราม ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นเต็นท์ที่ชาวบ้านร้องเรียน พร้อมทั้งได้ทำบันทึกอายัดรถยนต์ที่ตั้งขายในเต็นท์ทั้ง 231 คันไว้เพื่อตรวจสอบเป็นรถที่ถูกต้องหรือไม่ หากได้มาโดยไม่ถูกต้องจะต้องดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอน ส่วนกรณีที่ชาวบ้านมาร้องเรียนต้องทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน หากพบเข้าข่ายกระทำผิดฐานใด จะดำเนินคดีตามกฎหมายตามขั้นตอนต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น