ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เปิดคลิปเซลส์ขายเครื่องดื่มสมุนไพรน้ำพลูคาวย้อนกลับมาพบยายวัย 56 ปีที่ใช้หยอดตาแล้วตาบอด ทำทีสาธิตโชว์ ยันไม่ใช่สาเหตุทำให้ยายตาบอด ด้าน สสจ.ขอนแก่นชี้เป็นเพียงอาหารเสริม ไม่สามารถใช้รักษาอาการโรคได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีข่าว นางคำแงง สุวรรณะ อายุ 56 ปี ชาวบ้านโนนลาน ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ต้องตาบอดข้างขวาไปตลอดชีวิต หลังจากได้รับคำแนะนำจากพนักงานขาย 2 คนให้ใช้น้ำสมุนไพรพลูคาวหยอดตารักษาต้อกระจก แต่กลับติดเชื้อจนแพทย์ต้องผ่าตัดเอาดวงตาออกป้องกันลุกลามไปยังสมอง
ล่าสุดที่บ้านนางคำแงงได้มีการนำคลิปวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้โดยญาติของนางคำแงงเอง บันทึกภาพไว้ในวันที่พนักงานขายน้ำสมุนไพรน้ำพลูคาวเป็น ชาย 2 คน เดินทางมาพบนางคำแงงที่บ้าน หลังเพิ่งออกจากโรงพยาบาลขอนแก่นผ่าตัดเอาดวงตาที่ติดเชื้อออก
โดยในคลิปจะเห็นชายสวมเสื้อสีดำได้นำเอาน้ำสมุนไพรพลูคาวเทออกมาจากขวด หยอดลงในตาทั้งสองข้างของชายที่สวมเสื้อสีชมพู เพื่อเป็นการยืนยันให้ครอบครัวของนางคำแงงเห็นว่าน้ำสมุนไพรดังกล่าวสามารถหยอดตาได้ ไม่เป็นอันตราย และยังยืนยันว่าไม่เป็นอันตราย เนื่องจากมีชาวบ้านคนอื่นๆ หายจากอาการตาต้อกระจกเมื่อหยอดตาด้วยน้ำสมุนไพรชนิดนี้
แต่จากคลิปวิดีโอจะเห็นว่าชายที่สวมเสื้อสีชมพูได้แสดงอาการแสบร้อนที่ตา หลังจากที่นำน้ำสมุนไพรหยอดลงในดวงตาทั้งสองข้างได้ไม่นาน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้นำคลิปวิดีโอพร้อมกับกล่องบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดนี้ ไปให้เภสัชกรเชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ตรวจสอบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผลิตขึ้นอย่างถูกต้องได้มาตรฐานหรือไม่
นายเชิดชัย อริยานุชิตกุล เภสัชกรเชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดนี้ได้รับอนุญาตให้ผลิตถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการรับรองจาก อย. ซึ่งผลิตโดยร้านคิงส์เฮิร์บ ตั้งอยู่เลขที่ 16 หมู่ 23 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น และจัดจำหน่ายโดย บริษัท คิงส์เฮิร์บ เวิลด์ 1999 จำกัด เป็นการอนุญาตให้ผลิตน้ำสมุนไพรเสริมอาหาร ที่ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค และไม่ได้อนุญาตให้ใช้ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบอื่น เช่น หยอดลงในอวัยวะส่วนอื่นๆ นอกจากใช้ดื่มเพื่อเสริมอาหารเท่านั้น
การที่พนักงานขายนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปโฆษณาว่าสามารถใช้หยอดตาเพื่อรักษาอาการตาต้อกระจกได้ ถือเป็นความผิด มีโทษตามกฎหมาย จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อคำอวดอ้างสรรพคุณ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้หากนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และหากไม่มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ชนิดใดได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองหรือไม่ ก็สามารถโทรศัพท์สอบถามกับสำนักงานสาธารณสุขในแต่ละจังหวัดได้