xs
xsm
sm
md
lg

เห็นด้วยหรือไม่! โรงโม่หินใหม่ อ.ภูผาม่านเปิด 3 เวทีรับฟังความเห็นชาวบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ขอนแก่น - ที่ปรึกษาโครงการขอประทานบัตรโรงโม่หินแห่งใหม่ใน อ.ภูผาม่านเปิดเวทีรับฟังความเห็นชาวบ้านใน 3 ตำบลต่อรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านมั่นใจภาครัฐช่วยเป็นหูเป็นตาหากมีปัญหา และเห็นด้วยจะได้มีงานทำมีรายได้เพิ่ม

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 61 ที่ผ่านมา บริษัท ทอพ-คลาส คอนซัลแทนท์ จำกัด ได้จัดประชุมรับฟังความเห็นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รัศมี 2 กม.จากที่ตั้งโครงการโรงโม่หินแห่งใหม่ แหล่งหินภูถ้ำแกลบ ที่ ต.นาฝาย อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ประกอบด้วย ชาวชุมชน ต.นาฝาย 4 หมู่บ้าน, ชาว ต.วังสวาบ 4 หมู่บ้าน และจากชาวชุมชน ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ อีกจำนวน 3 หมู่บ้าน

โดยมีตัวแทนส่วนราชการ ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนเข้าร่วมเวทีรับฟังความเห็นทั้ง 3 ตำบลรวมกันแล้วร่วมพันคน

นายเกียรติศักดิ์ สุดแสง อายุ 40 ปีชาวบ้านฝายตาสวน ต.วังสวาบ อ.ภูผาม่าน
สำหรับบริษัททอพ-คลาส คอนซัลแทนท์ จำกัด เป็นผู้ได้รับอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Public Review) โครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างของ นางสาวปิยธิดา ทองแท่งไทย ตามคำขอประทานบัตรที่ 2/2559 ตั้งอยู่ หมู่ 3 ต.นาฝาย อ.ภูผาม่าน

โดยก่อนเริ่มเปิดเวทีรับฟังความเห็นต่อรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากโครงการฯ ทางผู้แทนบริษัท ทอพ-คลาส คอนซัลแทนท์ จำกัด กล่าวกับชาวบ้านว่าต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ได้สละเวลาเข้าร่วมประชุม เพราะทุกความคิดเห็นของพี่น้องในที่ประชุมถือเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และช่วยให้การศึกษาการวิเคราะห์ผลกระทบของโครงการทางด้านสิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วนและมีความโปร่งใสเพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องทั้งหมดนั่นเอง
ชาวบ้านใน ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิลงทะเบียนร่วมประชุม
นายปรัชญา ทองแท่งไทย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังสวาบ อ.ภูผาม่าน กล่าวถึงการจัดประชุมรับฟังความเห็นของชาวบ้านชุมชนที่มีส่วนได้เสียจากโครงการฯ ถือเป็นเรื่องดีมาก ประชาชนเองก็ตื่นตัวที่ได้เข้ามาร่วมรับฟังรายงานผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านต่างๆ มีประเด็นไหนที่ไม่ชัดเจน เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็สามารถแสดงความเห็นได้เพื่อที่ทางบริษัทที่ปรึกษาจะได้นำข้อมูลความเห็นเหล่านั้นไปปรับปรุงเพิ่มเติมการจัดทำรายงานต่อไป

สำหรับโครงการโรงโม่หินเพื่ออุตสาหกรรมการก่อสร้างดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลนาฝาย แต่การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจะต้องจัดทำให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ในรัศมี 2 กม. กินพื้นที่ทั้งหมด 3 ตำบล คือทั้ง ต.วังสวาบ ต.นาฝาย อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น และ ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ

“พื้นที่ขอประทานบัตรใหม่อยู่ในพื้นที่ผืนเดียวกันกับโรงโม่เทพประทานพรที่ทำอยู่แล้วมานานกว่า 20 ปี จุดที่ตั้งของโรงโม่ค่อนข้างไกลชุมชน ทั้งยังมีการจัดทำแนวกั้นหรือบัพเฟอร์โซนเป็นอย่างดี ไม่เคยสร้างผลกระทบให้แก่ชุมชนแต่อย่างใด กระนั้นก็ตาม การดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย” นายปรัชญากล่าว

ขณะที่นายเกียรติศักดิ์ สุดแสง อายุ 40 ปี ชาวบ้านฝายตาสวน ต.วังสวาบ บอกว่ามาประชุมครั้งนี้ได้รู้ข้อมูลหลายอย่างเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมาตรการการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียงกับโรงโม่ เป็นการประชุมที่ยอมรับฟังความเห็นชาวบ้าน แต่ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับการตั้งโรงโม่เพราะจะได้มีงานทำใกล้บ้าน

“เขาบอกว่าชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ 3 ตำบลใกล้กับแนวเขตการขอประทานบัตรจะได้รับการพิจารณาเข้าทำงานเป็นกรณีพิเศษ เพื่อจะได้มีรายได้ที่แน่นอนมั่นคงนอกเหนือจากการทำไร่ทำนา นอกจากนี้ ทางโรงโม่หินยังมีโครงการจัดตั้งกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตขึ้นในแต่ละหมู่บ้านให้อีกด้วย” นายเกียรติศักดิ์บอก

ด้านนายวัชรพล สอนคูณแก้ว อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 44 หมู่ 1 บ้านห้วยแก้ว ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หนึ่งในชาวบ้านที่เดินทางร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยกล่าวว่า ในประเด็นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพของคนในชุมชนที่อาจได้รับจากโรงโม่หินแห่งใหม่นั้นตนไม่กลัว เพราะมีหน่วยงานรัฐระดับอำเภอที่เกี่ยวข้องคอยดูแลอยู่ ทาง อบต.ทุ่งพระเองก็บอกว่าหากมีการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นในพื้นที่จะช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

“มีโรงงานใกล้บ้านจะช่วยให้ลูกหลานไม่ต้องพากันเข้ากรุงเทพฯ ไปหางานทำกันอีก อยู่ไกลกันก็เป็นห่วง ต่อไปจะได้ทำงานในท้องถิ่นนี่แหละ รายได้อาจจะไม่เท่ากับโรงงานที่กรุงเทพฯ แต่ค่าใช้จ่ายก็ประหยัดกว่า ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา” นายวัชรพลกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น