อุดรธานี - “บิ๊กโจ๊ก” นำทีมบุกทลายเครือข่ายค้าประเวณีเด็กหญิงรายใหญ่ใน อ.กุมภวาปี จับอดีต ผอ.ร.ร.กับพวกอีก 3 คนชำเราเด็ก-ค้ามนุษย์ หนึ่งในจำนวนนี้เป็นหญิงท้อง 6 เดือน เผยโทษหนักเพราะทำผิดซ้ำกันหลายครั้งต่างกรรมต่างวาระ สูงสุดตลอดชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. นายธนพล จันทรนิมิ รอง ผวจ.อุดรธานี นางสิริวิมล ภู่หริย์วงศ์สุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี ร่วมกับแถลงข่าวผลการ “ทลายเครือข่ายค้าประเวณีเด็ก ค้ามนุษย์ และช่วยเหลือเหยื่อ” ในพื้นที่ อ.กุมภวาปี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า ตำรวจร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง จนสามารถยกระดับจาก “เทียร์ 3” มาเป็น “เทียร์ 2” และยังมุ่งมั่นยกระดับเป็น “เทียร์ 1” ที่ผ่านมามีการนำสื่อออนไลน์มาใช้ในการค้ามนุษย์มากขึ้น การทำงานจึงต้องช่วยกันทุกฝ่าย กรณีล่าสุดมีพลเมืองดีแจ้งผ่านสายด่วน 1155 ว่ามีเครือข่ายจัดหาเด็กหญิงไปขายบริการทางเพศให้ลูกค้าในพื้นที่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี จึงให้หน่วยงานและตำรวจพื้นที่ร่วมกันติดตาม
โดยตำรวจจะติดตามจับกุม และดำเนินคดีตามกฎหมายไม่เว้น นอกจากจะต้องโทษติดคุก ซึ่งมีบทลงโทษหนัก ยังจะต้องถูกยึดทรัพย์กรณีฟอกเงิน จากฐานความผิดการค้ามนุษย์ ทั้งรายใหญ่ รายย่อย ทั้งผู้ค้าและผู้ใช้บริการจะต้องถูกดำเนินคดี ไม่มีที่ว่างให้คนร้ายได้ยืน ใครที่มีพฤติกรรมเรื่องเหล่านี้จะต้องเลิกพฤติกรรมก่อนถูกจับ
ด้าน พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาตำรวจหลายหน่วยร่วมกับพื้นที่ช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 13, 14 และ 16 ปี รวม 3 คน ที่ถูกกระทำมาก่อนหน้านี้กว่า 1 ปี หลังจากสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับแล้ว โดยวันนี้ (3 ก.ย.) ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหา 4 คน ใน 2 ข้อหา คือ กระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ และ “ค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์มิชอบจากการค้าประเวณี ซึ่งได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี” ที่แตกต่างกัน
ประกอบด้วย ผอ.เดือน หรือ นายเดือน เทพประชา อายุ 65 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน ข้อหากระทำชำเราเด็กทั้ง 3 คน และนำเด็กทั้งหมดไปในการค้ามนุษย์ ซึ่งบุคคลคนนี้เคยตกเป็นข่าวมาแล้วเมื่อช่วงต้นปี, นายบัง หรือ นายเหงินอารี สาสุข อายุ 62 ปี ข้อหากระทำชำเราเด็ก 2 คน และนำเด็กไปในการค้ามนุษย์, นางแตง หรือ นางกนกวรรณ พิทักษ์วาปี กำลังตั้งครรภ์ 6 เดือน ข้อหานำเด็กไปในการค้ามนุษย์ และนายตั้ม หรือ พรเทพ พนมพร อายุ 41 ปี ข้อหากระทำชำเราเด็ก ซึ่งมีโทษจำคุก 4-20 ปี เหตุเกิดต่างกรรมต่างวาระ อาจต้องรับโทษสูงที่สุดถึง 50 ปี
พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม.กล่าวต่อว่า ครั้งก่อนทีมเดียวกันนี้ก็มาจับค้าประเวณีเด็กชายที่อุดรธานี ความคืบหน้าคือมีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย ขณะที่ศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว 2 ราย รายแรกจำคุก 90 ปี รายที่สอง 80 ปี สำหรับคดีนี้ยังมีการขยายผลกับผู้มาซื้อบริการเด็กทั้ง 3 ราย
นอกจากนี้ยังพบเหยื่อเพิ่มอีก 2 รายอยู่ระหว่างการสอบสวน จะแจ้งข้อหาเพิ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คน หรือจับกุมคนอื่นเพิ่มหรือไม่ ทั้งหมดเป็นไปตามพยานหลักฐาน
นายธนพล จันทรนิมิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ระบุว่า พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี ได้เข้าร่วมในการปฏิบัติการ โดยทั้งทีมของบ้านพักเด็กอุดรธานี และทีมงานสหวิชาชีพมีความเชี่ยวชาญ ร่วมสอบสวนเหยื่อ ออกหมายจับผู้กระทำผิด ตลอดจนการคุ้มครองและฟื้นฟูเหยื่อ ซึ่งทั้งหมดขณะนี้อยู่ในความดูแลของ “บ้านนารีสวัสดิ์” รวมทั้งการเดินทางลงเยี่ยมครอบครัวเหยื่อทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ “อดีต ผอ.เดือน” เคยตกเป็นข่าวเมื่อต้นเดือนมกราคมปีนี้ เมื่อมีเด็กนักเรียนหญิง 3 คนร้องเรียนผ่าน “เพจแหม่มโพธิ์ดำ” ว่ามีพฤติกรรมล่อลวงเด็กนักเรียน ด้วยการแจกเศษกระดาษเขียนเบอร์โทรศัพท์ ใครสนใจอยากได้เงินให้โทร.มาหา เพื่อเตือนให้เด็กนักเรียนอยู่ห่างๆ มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวนักเรียนยืนยัน
แต่ไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด เพราะเด็กยังไม่ตกเป็นเหยื่อ ขณะที่บุตรสาวอดีต ผอ.รับปากจะดูแลพ่อไม่ให้ก่อเหตุแบบนี้อีก ทำให้เรื่องค่อยๆ เงียบลง จนมาตกเป็นข่าวการจับกุมดังกล่าว
