ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เริ่มแล้ว! เทศกาล “ด้วงกว่าง” ที่เชียงใหม่ กลุ่มผู้ชื่นชอบรวมตัวตั้งตลาดนัดกว่างชนเพื่ออนุรักษ์การละเล่นพื้นบ้านยอดนิยมในอดีต ทั้งวางขายและจัดสังเวียนให้ประลองฝีมือ พบทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ร่วมคึกคัก
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่วันนี้ (2 ก.ย. 61) แจ้งว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่บริเวณริมถนนเชียงใหม่-เชียงราย ขาออกเมือง ช่วงผ่านตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศเริ่มเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จากการที่บรรดากลุ่มผู้ที่ชื่นชอบ “ด้วงกว่าง” รวมตัวกันจัดตั้งตลาดนัดกว่างชนขึ้นเพื่อการอนุรักษ์แมลงชนิดนี้และการละเล่นพื้นบ้านดั้งเดิมของเด็กในสมัยก่อน โดยที่มีการนำท่อนอ้อยที่มีด้วงกว่างเกาะกินอยู่ ทั้งแขวน และวางให้คนที่ชื่นชอบแมลงชนิดนี้ได้ชมและเลือกซื้อกัน ซึ่งราคาขายมีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับลักษณะสี รูปร่าง ขนาดตัว และขนาดเขาของด้วงกว่างแต่ละตัว นอกจากนี้ยังมีการตั้งสังเวียนชนกว่าง เพื่อให้เจ้าของด้วงกว่างแต่ละตัวได้นำด้วงกว่างของตัวเองมาประลองฝีมือกันเป็นที่สนุกสนานของกองเชียร์ที่มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก
นายสุรชัย ชื่นจิตร อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบและเปิดร้านขายด้วงกว่างอยู่ในตลาดนัดกว่างชนด้วย เปิดเผยว่า ตลาดนัดแห่งนี้เพิ่งเปิดได้ประมาณ 1 สัปดาห์ สมาชิกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยทำตลาดนัดกว่างชนต่อเนื่องกันมานับสิบปีแล้วตั้งแต่บริเวณหลังโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยและตลาดดอกไม้ใกล้สี่แยกศาลเด็ก จนกระทั่งล่าสุดในปีนี้ได้ย้ายมาจัดตลาดนัดกันในพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งจะเปิดทุกวันต่อเนื่องกันประมาณ 3 เดือน จนกระทั่งสิ้นสุดฤดูด้วงกว่าง โดยด้วงกว่างที่นำมาขายในตลาดนัดแห่งนี้ที่มีวางขายอยู่รวมกันนับพันตัวนั้นจะเป็นด้วงกว่างที่จับมาจากธรรมชาติ ส่วนใหญ่จับมาจากแหล่งในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นที่นิยมและชื่นชอบของลูกค้า เพราะมีลักษณะที่ดีกว่าและสวยงามกว่าด้วงกว่างที่จับได้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่หรือใกล้เคียง
สำหรับราคาด้วงกว่างที่วางขายนั้น ราคาเริ่มต้นที่ตัวละ 30 บาท และเพิ่มสูงขึ้นไปตามลักษณะสี รูปร่าง ขนาดตัว และขนาดเขาของด้วงกว่างแต่ละตัว ซึ่งราคาที่แพงที่สุดที่ขายได้ในเวลานี้อยู่ที่ตัวละ 2,000 บาท ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อวันยังไม่แน่นอน เบื้องต้นอยู่ที่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่าจะกำไรหรือขาดทุนเพราะยังอยู่ในช่วงที่เพิ่งเริ่มต้น ขณะเดียวกันไม่ได้กังวลมากนักเพราะเป็นเรื่องของความชื่นชอบส่วนตัวและมีความตั้งใจมุ่งหวังเพื่อการอนุรักษ์การละเล่นพื้นบ้านดั้งเดิม ควบคู่ไปกับการขายเพื่อสร้างรายได้เสริม
ขณะที่ลูกค้ารายหนึ่งที่มาเลือกซื้อ “ด้วงกว่าง” บอกว่า ตั้งใจมาเลือกซื้อเพื่อระลึกความทรงจำสมัยที่ตัวเองยังเป็นเด็ก ซึ่งเด็กในปัจจุบันเริ่มไม่ค่อยรู้จักกับด้วงกว่างแล้วเพราะหันไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือกันหมด แต่หากเป็นสมัยก่อนเด็กตามต่างจังหวัดจะรู้จักด้วงกว่างเป็นอย่างดี เพราะเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมมาก ในช่วงหลังเสร็จสิ้นการเก็บเกี่ยวพืชผลการเกษตร ที่จะมีการออกไปหาจับด้วงกว่างตามป่าเล่นต่อสู้กันหรือที่เรียกว่า “ชนกว่าง” เพื่อผ่อนคลายจากช่วงทำงานหนักและความสนุกสนาน