น่าน - คืบหน้าคดีมือปืนโหดยิงถล่ม “อดีตกำนันแหนบทอง-NGO ชื่อดังเมืองน่าน” ร่างพรุนดับคาสวน ล่าสุด เจ้าหน้าที่เรียกสอบ จนท.อช.ศรีน่าน แล้ว 4 พร้อมเร่งล่าอีก 1 หาหลักฐานคลี่คลายคดี
วันนี้ (31 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายซุ่มใช้ปืนลูกซอง อาก้ายิงถล่ม นายเกษตร ยศบุญเรือง อายุ 62 ปี อดีตกำนันแหนบทองคำ ที่เป็นแกนนำ NGO ด้านทรัพยากรป่าไม้คนสำคัญของเมืองน่าน จนร่างพรุนเสียชีวิตคาที่ บริเวณสวนบ้านห้วยขาม หมู่ 2 ต.เชียงของ อ.นาน้อย จ.น่าน คืนวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน ผบก.ภ.น่าน พ.ต.อ.ถนัด พลพานิช ผกก.สภ.นาน้อย พร้อมกำลังชุดสืบสวนเข้าตรวจค้นที่บ้านพักเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานห้วยงาม อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ซึ่งมีพื้นที่ติดกับสวนของผู้ตายเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้ยึดอาวุธปืน 2 กระบอก และรองเท้าไปตรวจสอบด้วย
นอกจากนี้ ได้มีการเรียกเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานห้วยงาม มาสอบสวนรวม 5 นาย โดยได้เรียกมาแล้ว 3 นาย และจะเรียกสอบเพิ่มอีก 1 นาย ส่วนอีกนายได้หายตัวไปจากบ้านพักตั้งแต่เย็นวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา
เบื้องต้น ทำให้ทราบถึงความขัดแย้งรุนแรงระหว่างผู้ตายกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ซึ่งกำลังหลบหนี ทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องขบวนการค้าตัวนิ่ม โดยเจ้าหน้าที่ที่หลบนี้นั้นเชื่อว่ายังกบดานอยู่ในพื้นที่บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งได้ประสานกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ในการติดตามตัวแล้ว
พ.ต.อ.ถนัด พลพานิช ผกก.สภ.นาน้อย กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำผิด สาเหตุจริงนั้นผู้ตายเป็นกำนันนักพัฒนาคนหนึ่ง แกนนำเอ็นจีโอ และเป็นผู้รับเหมาอีกด้วย ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป
ทางด้านเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.น่าน เริ่มเคลื่อนไหว กรณีลอบยิงสังหารกำนันเกษตร แกนนำ NGO ชื่อดังเมืองน่าน
นายสำเริง แก้วเทพ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติหมู่บ้านจังหวัดน่าน เปิดเผยความรู้สึกว่า เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ต่อวงการนักต่อสู้ นักอนุรักษ์ นักพัฒนา ที่ทำงานร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานานกว่า 30 ปี ซึ่งเครือข่าย ทสม.จังหวัดน่าน กว่า 2,000 คน พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการแจ้งเบาะแสคนร้ายเพื่อให้จับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
ขณะที่ นายสถาพร สมศักดิ์ ที่ปรึกษาเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน กล่าวว่า กำนันเกษตรเป็นนักอนุรักษ์ นักพัฒนา เป็นผู้ร่วมผลักดันพระราชบัญญัติป่าชุมชนตั้งแต่ยุคแรกๆ และเป็นบุคคลที่กว้างขวางด้านการทำงานแผนพัฒนาชุมชนในระดับภาคเหนือ และระดับประเทศ
“คดีลอบสังหารด้วยอาวุธหนักอย่างอุกอาจ ทำให้แกนนำเครือข่ายทั้งกำนัน และผู้ใหญ่บ้านในอีกหลายพื้นที่ ซึ่งกำลังลุกขึ้นมาพัฒนา และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสียขวัญ และกำลังใจ รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในการแสดงจุดยืนของการเป็นนักพัฒนา นักอนุรักษ์ ขณะที่เครือข่าย ทสม.ขอเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด”
