ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวประจวบฯ โวยมือดีตัดต้นศรีมหาโพธิ์บนเขาช่องกระจก ศูนย์รวมจิตใจและแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมือง ทั้งเป็นต้นที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงปลูกไว้ เจ้าอาวาสรับตัดต้นโพธิ์เพราะยืนต้นตาย
วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศิลา โพธิ์ระย้า กลุ่มประจวบทุกเรื่องราว เปิดเผยว่า ได้สอบถามไปยังวัดธรรมิการามวรวิหาร พระอารามหลวง ซึ่งดูแลพื้นที่เขาช่องกระจก ทราบว่า มีการตัดต้นโพธิ์ เนื่องจากต้นโพธิ์ถูกลิงแสมที่มีอยู่จำนวนมากกัดกินใบจนเหลือแต่กิ่งทำให้ต้นโพธิ์ตาย วัดจึงตัดสินใจตัดต้นโพธิ์เหลือแต่ตอ แล้วนำออกจากมาจุดที่ปลูกเดิม ซึ่งเป็นเรื่องนี้กระทบต่อจิตใจชาวประจวบคีรีขันธ์เป็นอย่างมาก
เนื่องจากเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า เนื่องจากในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงปลูกต้นโพธิ์ดังกล่าวไว้ อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครเดินทางขึ้นมาถึงยอดบนเขาช่องกระจกเพื่อมาชมความงดงาม ตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพเมืองประจวบคีรีขันธ์รอบทิศทาง
สำหรับความสำคัญของต้นโพธิ์ ทางวัด รวมถึงหน่วยงานในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ควรช่วยกันดูแลบำรุงรักษาให้คงอยู่ต่อไป ธรรมชาติของต้นโพธิ์เป็นไม้ที่แข็งแรงสามารถมีอายุยืนได้หลายร้อยปี การตัดโดยพลการก็เป็นเรื่องมิควร ควรทำเรื่องขออนุญาตให้เรียบร้อย ส่วนตอที่เหลืออยู่ เห็นว่าควรหาทางฟื้นฟูอาจทำให้ต้นไม้คืนชีวิตได้ การดูแลต้นไม้ให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปจนทำไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ จังหวัดได้ตั้งงบประมาณตั้งแต่ปี 2558-2560 ในการปรับปรุงภูมิทัศน์เขาช่องกระจก ปรับปรุงทางขึ้นเขาช่องกระจกและติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่าง สร้างประติมากรรมน้ำพุวาฬบรูด้า ขยายถนนคอนกรีต งบประมาณกว่า 42 ล้านบาท และเดือนตุลาคม 2560 ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับประชาชนจิตอาสาทาสีบันไดทางขึ้นเขาช่องกระจก 396 ขั้น ให้เป็นสีเหลือง
โดยก่อนหน้านี้ พระราชสุทธิโมลี เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายธรรมยุต ได้แนะนำให้นักท่องเที่ยวถือน้ำคนละขวดเพื่อนำไปรดต้นโพธิ์ที่กำลังแห้งเฉาตาย เนื่องจากขาดน้ำ เพราะอยู่บนเขาสูง 245 เมตรจากระดับน้ำทะเล และขาดการดูแลจากหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานรัฐ ทำให้ต้นโพธิ์ค่อยๆ แห้งเหี่ยวตาย จนมาวันนี้ถูกตัดเหลือแต่ตอทำได้อย่างไร
ขณะเดียวกัน พระราชสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายธรรมยุต กล่าวว่า ต้นโพธิ์ต้นดังกล่าวเป็นต้นที่มีอายุกว่า 60 ปี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินขึ้นมาที่เขาช่องกระจก เมื่อปี 2501 ทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ภายหลังพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นหน่อเดิมจากต้นพระศรีมหาโพธิ์จากพุทธคยา
ภายหลังจากที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ต้นโพธิ์ต้นดังกล่าวก็เริ่มมีใบค่อยๆ ร่วง ใช้เวลาหลายเดือนกระทั่งร่วงหมดต้น เหลือเพียงกิ่งเท่านั้น ซึ่งล่วงเลยมาปีกว่าแล้ว พระที่จำวัดอยู่ด้านบนยอดเขาช่องกระจกได้แจ้งให้อาตมาทราบ จึงได้ทำการตัดกิ่งไม้ และถอนนำตอต้นโพธิ์ออกจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งรากได้แพร่กระจายโดยมีพื้นปูนหุ้มไว้โดยรอบ ในส่วนของความรู้สึกของประชาชนที่เห็นว่ากระทบกระเทือนจิตใจนั้น ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 61 ทุกคนก็เห็นว่าต้นไม้อยู่ในสภาพใกล้ตาย แม้ว่าจะรดน้ำ หรือบำรุงรักษาแล้วก็ตาม
พระราชสุทธิโมลี กล่าวอีกว่า หลังจากที่ทางวัดพยายามที่จะยื้อชีวิตต้นโพธิ์แล้ว หลวงพ่อและพระในวัดได้ช่วยกันทอนกิ่งและขุดต้นโพธิ์ขึ้นมาเพื่อเตรียมนำต้นโพธิ์ต้นใหม่สายพันธุ์เดิมจากพุทธคยาประเทศอินเดียมาปลูกแทนที่ ในวันจัดงานเทศกาลขึ้นเขาห่มพระ ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ส่วนต้นโพธิ์ที่แห้งตายก็จะนำมาเก็บรักษาไว้ในวัดเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ดูว่า นี่คือต้นโพธิ์ต้นแรกต้นเดิมที่ในหลวงท่านทรงปลูกไว้ให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อสมัย 60 ปี ก่อน
“อาตมายอมรับว่าทดแทนกันไม่ได้ และที่ผ่านมาวัดไม่มีความรู้เรื่องนี้ วัดทำเท่าที่ทำได้ ส่วนซากต้นไม้ความยาวกว่า 1 เมตร ยังอยู่ในจุดเดิม ที่ผ่านมามีบุคคลภายนอกแจ้งขอใช้เพื่อนำไปแกะสลักพระพุทธรูป แต่วัดยังไม่อนุญาต เนื่องจากมีแนวคิดจะนำออกไปแปรรูป แต่เมื่อกระแสสังคมให้ความสนใจก็จะเก็บรักษาซากไว้อย่างดี เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ทราบประวัติที่มา”
ขณะเดียวกัน ด้านป้ากุ้ง ขำพวง คนขายอาหารลิงประจำเขาช่องกระจก กล่าวว่า เป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ในหลวง ร.9 และพระราชินี ทรงเสด็จขึ้นเขาช่องกระจกปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ ก่อนหน้านี้ หลายสิบปีต้นโพธิ์อุดมสมบูรณ์ดี แต่เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 สิ้นพระชนม์ลง ต้นโพธิ์ก็เริ่มร่วงโรย กระทั่งไม่เหลือใบ และยืนต้นตาย ซึ่งตนเองและเพื่อนๆ ได้เก็บใบโพธิ์ไว้คนละ 3 ใบ เพื่อเป็นสิริมงคล โดยนำไปไว้ที่หิ้งพระ