บุรีรัมย์- ผอ.สรรพสามิตภาค 3 สั่งสรรพสามิต 9 จว.อีสานใต้ เร่งสร้างความเข้าใจ ปชช.ที่จะผลิตและจำหน่ายสาโทหรือสุราแช่พื้นบ้านทุกชนิด ต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตาม กม. อ้างไม่ได้ปิดกั้น หากเป็นสินค้ามีแอลกอฮอล์ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐและเสียภาษี ยัน “น้ำข้าวหมาก” เข้าข่าย “สาโท”
วันนี้ (28 ส.ค.) นายพีระดล จงเจริญรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 3 นครราชสีมา เปิดเผยภายหลังเดินทางมาตรวจเยี่ยมสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ว่า ขณะนี้ได้เน้นย้ำให้สรรพสามิตทั้ง 9 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ได้เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 พร้อมแนะนำให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสรรพสามิต รวมถึงประชาชนทั่วไปสามารถปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
โดยเฉพาะผู้ที่จะผลิตและจำหน่ายสาโทหรือสุราแช่พื้นบ้าน รวมถึงสินค้าที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด จะต้องขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะสินค้าที่มีแอลกอฮอล์ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลมาตรฐานจากรัฐและเข้าสู่ระบบเสียภาษีสรรพสามิตอย่างถูกต้องทั้งนี้ต้องมีการจัดระเบียบโซนนิ่งการจำหน่ายด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก เยาวชน เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่าย ซึ่งหากพบผู้ผลิตหรือจำหน่ายรายใดฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจำเป็นจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย
นายพีระดล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ คือ การทำน้ำข้าวหมากขาย ขอชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่า หากเป็นข้าวหมากที่ห่อใส่ใบตองหรือภาชนะที่ใช้สำหรับดักกิน สามารถขายได้ไม่ผิดกฎหมายเพราะถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน แต่หากเป็นน้ำข้าวหมากที่ผ่านการหมักด้วยลูกแป้งหรือแปรรูปเป็นน้ำของเหลวที่สามารถดื่มกินได้หรือมีระดับดีกรีเกินกว่ากฎหมายกำหนดเมื่อดื่มกินแล้วทำให้เกิดอาการมึนเมาจะเข้าข่ายอยู่ในกลุ่มของสาโทหรือสุราแช่พื้นบ้าน แต่สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกของคนทำสินค้าดังกล่าวว่าสิ่งที่ทำคืออะไร
อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แต่หากพูดคุยกันแล้วไม่มีความเข้าใจ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้มีการพิจารณาตีความให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนการสนับสนุนส่งเสริมการผลิตสินค้าโอทอปต่างๆ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจ โดยเฉพาะการผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์เจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้ามหรือปิดกั้นไม่ให้ทำ แต่ต้องมีการขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น ต้องมีการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
