กาฬสินธุ์ - ผบช.ภาค 4 ลงพื้นที่กาฬสินธุ์ สางปัญหาลูกหนี้ถูกนายทุนดอกโหดเอาเปรียบ เผยผลตรวจเอกสาร ตำรวจเตรียมคืนโฉนดที่ดินให้ประชาชนถึง 611 ฉบับ คิดเป็นมูลค่าเงินกู้สูงกว่า 47 ล้านบาท
หลังจากกองกำลังผสม ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์บุกเข้าตรวจสอบโรงรับจำนำแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในตลาดสดอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกประชาชนร้องเรียนว่าเปิดให้มีการจำนองโฉนดที่ดินด้วยอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด โดยกำลังผสมสามฝ่ายได้ยึดบัญชีเอกสารโฉนดที่ดินไปตรวจสอบ เบื้องต้นคาดการว่ามีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และยังได้อาวุธปืนหลายชนิดถึง 16 กระบอก ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมตรวจสอบโดยเน้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เพื่อเร่งคืนโฉนดที่ดินตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (24 ส.ค. 61) ที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 ได้เดินทางมาติดตามผลการตรวจสอบเอกสาร บัญชี โดยเฉพาะโฉนดที่ดินซึ่งกองกำลังผสมได้อายัดมาตรวจสอบตั้งแต่ 10 ส.ค. 61 โดยมี พ.ต.อ.ชาตรี ปรีชากุล รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.โสภณ วารี รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทธรา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้า
ทั้งนี้ ก่อนเข้ารับฟังการรายงาน ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ได้เข้าไปตรวจสอบการคัดแยกเอกสาร โดยเฉพาะโฉนดที่ดินที่คัดแยกเอกสารของโรงรับจำนำบุหงาสมเด็จ เบื้องต้นผลการตรวจสอบโฉนดจำนวน 1,089 ฉบับ แต่เดิมสามารถนำคืนโฉนดได้ 352 ฉบับ แต่ในขณะนี้จากผลที่ลูกหนี้เข้ามาให้ปากคำและมีการเจรจายังสามารถนำคืนโฉนดได้เพิ่มอีกจำนวนมาก
พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภาค 4 กล่าวว่า ผลการตรวจสอบนอกจากโรงรับจำนำบุหงาสมเด็จ ยังมีรายย่อยที่สามารถเตรียมคืนโฉนดอีก 14 ราย จากจำนวนผู้ร้องเรียนที่เป็นรายย่อย 79 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 65 ราย แต่เฉพาะในรายของโรงรับจำนำบุหงา เบื้องต้นมีการทำสัญญาเงินกู้ 600 ราย คาดว่าจะสามารถคืนโฉนดที่ดินได้ 611 ฉบับ เป็นพื้นที่รวมประมาณ 1,937 ไร่ เป็นยอดเงินกู้ประมาณ 47,319,925 บาท ทั้งนี้การคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด ในรายนี้คิดอัตราให้ลูกหนี้ร้อยละ 24 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าปกติที่กำหมายกำหนดไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี ถึงร้อยละ 6 ต่อปี
“ผลการเจรจาถือว่าเจ้าหนี้รายนี้ให้ความร่วมมือดีในการคืนโฉนด จึงทำข้อตกลงต่อหน้าพยานถึง 5 ฝ่าย อีกทั้งทั้งหมดที่ตรวจสอบก็เป็นการจำนองที่ไม่ใช่ลักษณะการขายฝาก และยังไม่ปรากฏนิติกรรมอำพรางเหมือนกับจังหวัดอื่น จึงทำการตรวจสอบได้ง่าย” พล.ต.ท.สุรชัยกล่าว
นอกจากรายนี้ทราบว่ายังมีอีกหลายรายที่ตำรวจกำลังตรวจสอบ รวมไปถึงรายย่อย คาดว่าในวันที่ 20 กันยายน 2561 ซึ่งเป็นวันที่กำหนดคืนโฉนด คาดว่าจะสามารถคืนโฉนดให้แก่ประชาชนได้มากกว่า 1,000 ฉบับ
“เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 4 ให้ปราบปรามนายทุนที่มีพฤติกรรมเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากฎหมายกำหนด และให้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบรวมถึงการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญา ประกอบกับได้รับข้อมูลร้องเรียนจากประชาชนว่ามีนายทุนคิดดอกเบี้ยในอัตราสูง ไม่ยอมให้ไถ่ถอน เป็นเหตุให้ประชาชนเดือดร้อน ประชาชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบสามารถมาร้องเรียนไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงิน ที่ตำรวจภูธรจังหวัดในภาค 4 ซึ่งที่กาฬสินธุ์ให้มาที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์” ผบช.ภาค 4 กล่าวในที่สุด