ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าท่าแจงทุ่มงบประมาณกว่า 429 ล้านบาท ปรับโฉมชายหาดพัทยา ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร เหนือจดใต้ หวังเป็นโครงการนำร่องช่วยฟื้นฟู และกระตุ้นการท่องเที่ยวชายหาดพัทยาให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เชื่อเสร็จ พ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้จัดการประชุมสัมมนาระดับจังหวัด นโยบายและทิศทางการพัฒนาแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายหาดท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และงานแถลงข่าวโครงการจ้างเหมาก่อสร้างเสริมทรายชายหาดพัทยา โดยได้รับเกียรติจาก นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด ที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จ.ชลบุรี
นายสมชาย สุมนัสขจรกุล รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า โครงการเสริมทรายชายหาดพัทยา เกิดขึ้นเพราะสภาพชายหาดเมืองพัทยา ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญด้านการท่องเที่ยว กำลังประสบปัญหาชายหาดมีสภาพเสื่อมโทรมอย่างหนัก เนื่องจากถูกน้ำทะเลกัดเซาะอย่างรุนแรง และหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลให้ชายหาดบางช่วงขาดหายไปภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี ดังนั้น จึงมีนโยบายเร่งด่วน เดินหน้าโครงการเสริมทรายชายหาดพัทยา ตั้งแต่ชายหาดพัทยาเหนือ บริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี จนถึงชายหาดพัทยาใต้ บริเวณวอล์กกิ้ง สตรีท รวมระยะทางประมาณ 2.85 กิโลเมตร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบธุรกิจริมชายหาดเมืองพัทยา ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาชายหาดที่สูญหายไป และเพื่อเป็นการปรับทัศนียภาพชายฝั่งให้น่าท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
โครงการนี้นับเป็นชายหาดแห่งแรกของประเทศไทยที่มีการเสริมทรายชายหาด โดยได้รับงบประมาณจำนวนกว่า 429 ล้านบาท กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัท กิจการร่วมค้า มารีน คอนสตรัคชั่น จำกัด โดยทำงานจ้างเหมาก่อสร้างเสริมทรายชายหาดพัทยา เริ่มทำงานตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 โดยใช้แหล่งทรายบริเวณตะวันตกของเกาะรางเกวียน ซึ่งอยู่ห่างจากทิศใต้ของเกาะล้านออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร
หลังจากการฟื้นฟูบูรณะชายหาดพัทยาเสร็จสิ้น ชายหาดพัทยาเหนือจดใต้จะมีขนาดหาดทรายกว้าง 35 เมตร โดยมีพื้นที่กันชน (Buffer Zone) เพื่อป้องกันพายุ หรือคลื่นที่รุนแรงมากกว่าปกติ และใช้เป็นแนวเฝ้าระวังเตือนการบำรุงรักษาชายหาดกว้างประมาณ 15 เมตร ทำให้ชายหาดพัทยาสามารถกลับมาสวยงาม และสามารถใช้เป็นพื้นที่สันทนาการได้เช่นเดิม
นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากโครงการงานก่อสร้างเสริมทรายชายหาดพัทยาแล้วเสร็จ จะใช้ทรายทั้งสิ้น จำนวน 360,000 ลูกบาศก์เมตรโดยประมาณ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ใน 1 ปีแรกหาดทรายอาจจะถูกกัดเซาะหายไปประมาณ 10 เมตร แล้วแต่ข้อจำกัดในเรื่องของคลื่นลม หรือมรสุม
แต่ทั้งนี้ หาดทรายดังกล่าวจะมีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 7-10 ปี จึงจะค่อยๆ ถูกกัดเซาะให้หายไป ซึ่งในเรื่องดังกล่าวทางกรมเจ้าท่าได้ทำการศึกษาและเตรียมความพร้อมในเรื่องการเติมทรายชายหาดอยู่แล้ว และในอนาคต คาดว่าจะมีโครงการเสริมทรายชายหาดไปสู่หาดจอมเทียน และชายหาดอื่นๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศถูกกัดเซาะหายไป เพื่อฟื้นฟูให้กลับมามีสภาพที่สวยงามดังเดิม