xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งรีเช็กที่มาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ชาวบ้านยันไม่อันตราย-รายได้สูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ เมืองน้ำดำย้ำขยะเงินล้าน ต.โคกสะอาดไม่ใช่ขยะพิษนำเข้าจากนอก สั่งรีเช็กแหล่งที่มาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ชาวบ้านไม่หวั่นอันตรายรายได้สูง โดยเฉพาะทองคำที่เคลือบในแผงวงจรมือถือ 1 ตัน นำมาหลอมรวมได้ทองบริสุทธิ์หนัก 6 บาท

การแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ จ.กาฬสินธุ์ เริ่มเข้มงวดมากขึ้น หลังนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ นำคณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัด (คสจ.) ลงพื้นที่สอบถามปัญหาและความต้องการของชาวบ้าน รวมทั้งผู้ประกอบการคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแสวงหาข้อมูลประกอบการแก้ไขปัญหา และดำเนินการจัดสร้างเตาเผาขยะที่ยังไม่มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าภาพสานต่อ

ขณะที่ชาวบ้านเฝ้ารอคอยเตาเผาขยะในฝันตลอดระยะเวลา 20 ปี โดยสั่งการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าสร้างเตาเผาขยะแก้ปัญหาระยะยาว ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น


ล่าสุดวันนี้ (22 ส.ค.) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้คณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัด (คสจ.) รีเช็กแหล่งที่มาของขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ทะลักเข้าพื้นที่ ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย โดยได้รับข้อมูลยืนยันชัดเจนว่าเป็นขยะอีเล็กทรอนิกส์ที่ชาวบ้านตระเวนหาจากหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่ใช่ขยะพิษนำเข้าจากต่างประเทศแต่อย่างใด

นายไกรสรกล่าวว่า เพื่อตอกย้ำว่าขยะที่ชาวบ้าน ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย นำมาคัดแยก และคัดเลือกชิ้นส่วนที่มีค่าขายสร้างรายได้นั้นเป็นขยะบริสุทธิ์ คือไม่ใช่ขยะที่นำเข้าจากต่างประเทศ จึงได้สั่งการให้คณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัด (คสจ.) รวมทั้งผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ร่วมกันสอดส่องและตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการรีเช็กแหล่งที่มาอย่างละเอียด ไม่มีการปลอมปนแอบแฝง และให้ความมั่นใจกับหลายๆ ฝ่ายที่แสดงความเป็นห่วงกังวลในสุขภาพอนามัยของชาวบ้านที่ประกอบอาชีพคัดแยกขยะ และสิ่งแวดล้อมในชุมชน ต.โคกสะอาด

ซึ่งข้อมูลที่ได้รับยืนยันว่าเป็นขยะที่ได้จากการตระเวนหาของชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม ก็ยังต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะยาว และเป็นช่วงขยะพิษฟีเวอร์

ขณะที่นายวันชนะ นาถมทอง สมาชิกสภา อบต.โคกสะอาด หมู่ 4 บ้านหนองเม็ก ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย กล่าวว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ชาวบ้านใน ต.โคกสะอาดนำมาคัดแยกดังกล่าวมีแหล่งที่มา 3 เส้นทาง คือ 1. กลุ่มที่ใช้รถซาเล้งตระเวนหาตามหมู่บ้านและชุมชนที่อยู่ในท้องถิ่นใกล้เคียง ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีทั้งพ่อค้าของเก่า และผู้ประกอบการ เมื่อได้ของมาแล้วก็นำมาขายต่อให้ผู้ประกอบการ หรือคัดแยกในบ้านเรือนของตนเอง, 2. กลุ่มที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งจะมีทั้งพ่อค้าของเก่าและผู้ประกอบการตระเวนหาตามต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัดต่างๆ เมื่อได้ของเต็มรถหรือประมาณ 2-3 ตันแล้ว ก็นำกลับมาขายให้ผู้ประกอบการหรือทำการคัดแยก

ส่วนกลุ่มที่ 3 ส่วนมากเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ จะใช้รถบรรทุกหรือรถพ่วงไปรับของจากลูกค้าต่างภูมิภาค เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลางตอนบน ที่มีจุดรับซื้อหรือลูกค้าประจำรวบรวมไว้รอ จากการรับซื้อต่อจากพ่อค้าเร่ในท้องถิ่น เมื่อได้ของตามที่ต้องการก็จะไปรับมาเที่ยวละ 15-20 ตัน เป็นต้น

“ยืนยันว่าเส้นทางขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ลำเลียงเข้ามาในพื้นที่ ต.โคกสะอาด ไม่ว่าจะเป็น ทีวี มือถือ พัดลม เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เป็นของเก่าที่ตระเวนหาภายในประเทศทั้งสิ้น ทั้งใช้สิ่งของแลกเปลี่ยน และซื้อมาในราคาเศษเหล็ก โดยไม่มีขยะพิษจากต่างประเทศปะปนเข้ามาในพื้นที่แน่นอน” นายวันชนะยืนยัน และบอกอีกว่า

ในทางกลับกัน ชาวบ้านใน ต.โคกสะอาดยังคงประกอบสัมมาชีพคัดแยกขยะตามปกติ ซึ่งน่าจะได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณภาพแห่งเดียวในประเทศ ดีกว่าจะมาเพ่งเล็งว่าเกิดผลกระทบเสียหายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยขยะอิเล็กทรอนิกส์ส่วนมากที่นำมากะเทาะเอาชิ้นส่วนมีค่าคือจอทีวี และยอดนิยมที่สุดจะเป็นมือถือ

นายต๋อง จันดาโชติ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 236 หมู่ 11 บ้านหนองบัว ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย ผู้ประกอบการคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ เล่าว่า จากการประกอบอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ของชาวบ้านใน ต.โคกสะอาดนั้น เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดี เช่น จอทีวีเก่า เมื่อกะเทาะเอาชิ้นส่วนที่มีมูลค่า จะได้ทั้งเหล็ก พลาสติก ทองแดง แผงวงจร ส่วนที่จะนำไปทิ้งเพียงจอแก้วเท่านั้น รวบรวมขายได้ราคาสูง เหล็กกิโลกรัมละ 9 บาท, พลาสติกกิโลกรัมละ 10 บาท ทองแดงกิโลกรัมละ 170 บาท, แผงวงจรกิโลกรัมละ 12 บาท

ส่วนมือถือจะมีราคาแพงมากกว่าขยะทุกประเภท แม้จะเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ชิ้นเล็กๆ แต่มีมูลค่าสูง ทุกชิ้นส่วนคัดแยกขายได้หมด เช่น กรอบที่เป็นพลาสติก หรือโลหะ แผงวงจร ขึ้นตาชั่งขายกิโลกรัมละ 1,000 บาท แบตเตอรี่มือถือกิโลกรัมละ 5 บาท จะทิ้งก็เพียงเศษแก้วหรือหน้าปัดแสดงผลเท่านั้น แต่ปัจจุบันนิยมขายเป็นเครื่อง ราคาแล้วแต่รุ่นและยี่ห้อ เครื่องละ 15-20 บาท

ส่วนสิ่งที่มีค่าที่สุดที่มีอยู่ในขยะอิเล็กทรอนิกส์ประเภทมือถือก็คือทองคำที่เคลือบอยู่ในแผงวงจร ถึงแม้จะไม่ใช่ทองคำบริสุทธิ์ แต่หากนำไปหลอมรวมโดยผ่านกรรมวิธีการแปรรูปจะได้เนื้อทองคำที่มีราคาเทียบเท่าทองคำจริง หรือทองคำรูปพรรณบาทละประมาณ 20,000 บาททีเดียว โดยแผงวงจรมือถือ 1 ตันจะได้ทองคำน้ำหนักประมาณ 6 บาท หรือมีมูลค่าถึง 120,000 บาททีเดียว” นายต๋องกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น