อุบลราชธานี - ตำรวจอุบลฯ มั่นใจจับตัวหนุ่มโรคจิตโชว์ช่วยตัวเองต่อหน้านักศึกษาสาวได้แน่ สั่งชุดสายตรวจรถยนต์และจักรยานยนต์เพิ่มความถี่ตรวจหอพักจุดเสี่ยง ด้านนักศึกษาสาวหาวิธีป้องกันออกไปเป็นกลุ่ม
จากกรณีหนุ่มโรคจิตบุกสำเร็จความใคร่โชว์นักศึกษาสาวในหอพักกลางเมืองอุบลราชธานี และพยายามบุกเข้าไปในห้องพักผู้เสียหาย แต่เมื่อนักศึกษาเจ้าของห้องขัดขวางและร้องให้คนช่วย ทำให้หนุ่มโรคจิตรีบขี่จักรยานยนต์หลบหนีออกไปจากหอพัก และจากการตรวจสอบพบชายคนเดียวกันก่อเหตุทำนองนี้กับผู้เสียหายที่เป็นนักศึกษารายอื่นที่พักอยู่ตามหอพักต่างๆ รวม 3 รายนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.ทวี กิติวิริยกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี ได้ให้เจ้าหน้าที่เช็กกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางเข้าไปก่อเหตุและหลบหนีในช่วงวันที่ 16 และ 18 ส.ค. หลังภาพจากคลิปกล้องวงจรปิดของหอพัก น.ส.เอ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.2 วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่นำมาเป็นหลักฐานใช้ติดตามจับตัวคนร้าย มองเห็นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ไม่ชัดเจน
จึงต้องไล่เช็กกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ที่ติดตั้งไว้ตามจุดสำคัญต่างๆ เพื่อหาชายที่มีบุคลิกลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายใช้เป็นข้อมูลตามหาตัวหนุ่มโรคจิตรายนี้ ระหว่างที่ยังจับกุมคนร้ายไม่ได้ ได้ให้ชุดสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์เพิ่มความถี่ในการตรวจตามหอพักที่ตั้งอยู่ในจุดเสี่ยงมากขึ้น
ขอความร่วมมือจากผู้เสียหาย หากพบคนที่มีพฤติกรรมเดียวกันนี้ให้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ภายใน 3 นาที หรือให้ช่วยจดจำหมายเลขทะเบียนรถที่คนร้ายใช้ หรือลักษณะของคนร้าย เจ้าหน้าที่จะได้ใช้เป็นเบาะแสติดตามจับกุมได้ในภายหลัง สำหรับความผิดที่หนุ่มโรคจิตทำขึ้นครั้งนี้มี 3 ข้อหา คือ บุกรุกเคหสถานในยามวิกาล กระทำการลามกอนาจาร และก่อความเดือดร้อนรำคาญทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว
ด้าน น.ส.ทอฝัน ขันเงิน อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี กล่าวว่า รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจารย์ได้นำมาเล่าให้นักศึกษาฟังในห้องเรียน เพื่อให้ระมัดระวังตัวเวลาไปไหนมาไหนคนเดียว พร้อมทั้งยังทราบเรื่องราวจากเฟซบุ๊กที่มีการแชร์กันมาต่อๆ ด้วย
ส่วนวิธีป้องกันตัวเองไม่ให้พบกับเหตุการณ์นี้ ใช้วิธีไปไหนกันเป็นกลุ่ม เพราะปัจจุบัน น.ส.ทอฝันก็พักอาศัยอยู่ที่หอพักกับเพื่อนสาวร่วมชั้นเรียน ก็สามารถช่วยเหลือกันได้ พร้อมเลือกหอพักที่มีระบบป้องกันดี สำหรับกล้องวงจรปิด คิดว่าเป็นเพียงอุปกรณ์ใช้ตามจับตัวคนร้าย ไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก ดีที่สุดคือสังเกตความผิดปกติของคนรอบข้าง พร้อมจะป้องกันตัวเองหรือขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ใกล้เคียง
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี กิติวิริยกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุหนุ่มโรคจิตตระเวนทำอนาจารไปตามหอพักนักศึกษาหญิงหลายแห่ง ได้สั่งให้ชุดสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเพิ่มความถี่ตรวจหอพักที่ตั้งอยู่ในจุดเปลี่ยวหรือจุดล่อแหลมเพื่อไม่เปิดโอกาสให้คนร้ายก่อเหตุได้อีก
พร้อมขอความร่วมมือให้ผู้ประสบเหตุช่วยจดจำรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย หรือป้ายทะเบียนรถเพื่อใช้ติดตามจับกุม ส่วนหนุ่มโรคจิตที่ก่อเหตุรายนี้มั่นใจติดตามจับตัวได้แน่นอน ขณะนี้ขอเวลารวบรวมหลักฐานระหว่างก่อเหตุให้ได้ชัดเจนก่อน