xs
xsm
sm
md
lg

โจรใจบาปย่องลักพระพุทธรูปจำลองพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง พระคู่บ้านคู่เมืองอุบลฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อุบลราชธานี - วัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่ โร่แจ้งความพระพุทธรูปพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงจำลอง พระคู่บ้านคู่เมืองอุบลฯ เนื้อนวโลหะติดทองทั้งองค์หายไปจากโต๊ะหมู่บูชา แต่เชื่อโจรเก็บรักษาไว้ไม่ได้เพราะมีความศักดิ์สิทธิ์มาก

วันนี้ (21 ส.ค.) นายปัญญา ชากะจะ อายุ 61 ปี กรรมการวัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่ พระอารามหลวง ตั้งอยู่บนถนนสรรพสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ชาตรี บังศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานีว่า พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงจำลองขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว รุ่นบารมีศรีอินทร์แปลง เนื้อนวโลหะติดทองทั้งองค์ หายไปจากโต๊ะหมู่บูชา ภายในวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ที่กำลังมีการปรับปรุงก่อสร้าง คาดเหตุเกิดช่วงกลางคืนวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา

นายปัญญา กรรมการวัดมหาวนาราม เล่าว่า เมื่อไม่เห็นพระพุทธรูปจำลองตั้งอยู่บนแท่นบูชาในวิหาร พระครูสารกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม ได้สอบถามกับคนในวัด ก็ไม่มีใครพบเห็นพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงจำลององค์นี้ ซึ่ง พล.อ.นิรุทธ เกตุสิริ อดีตที่ปรึกษากองทัพบก ได้เป็นประธานจัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2560 และได้นำมาประดิษฐานไว้ที่แท่นดังกล่าว ใกล้กับพระพุทธรูปพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงองค์จริง

คณะกรรมการวัดฯ จึงมอบหมายให้ตนเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามหาพระพุทธรูปจำลององค์นี้กลับคืนมาให้กับทางวัดเพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชา และเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปอีกไม่นานคนที่เอาไปจะต้องได้รับความเดือดร้อน และยังไม่สงสัยใครเป็นพิเศษ เพราะช่วงนี้ทางวัดก็กำลังมีการปรับปรุงก่อสร้างต่อเติมพระวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง นายปัญญา กรรมการวัดให้ความเห็น

สำหรับพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง จ.อุบลราชธานี โดยองค์จริงมีหน้าตักกว้าง 3 เมตร สูง 5 เมตร สร้างในสมัยพระพรหมวรราชสุริยวงศ์ เจ้าเมืองคนที่ 2 ของเมืองอุบลราชธานี มีอายุเกือบ 200 ปี เพื่อให้สาธุชนและพุทธศาสนิกชนที่เคารพศรัทธาได้กราบไหว้ รวมทั้งมีการสร้างพระจำลองรุ่นต่างๆ ให้ประชาชนเช่านำกลับไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

โดยเมื่อกว่า 20 ปีก่อนเคยมีคนร้ายที่เป็นช่างทำทองรูปพรรณเข้ามาโจรกรรมตักทองคำเปลวที่ประชาชนนำไปติดไว้กับเนื้อพระพุทธรูปองค์จริง ซึ่งมีความหนามาก ปรากฏระหว่างที่คนร้ายก่อเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรถสายตรวจจักรยานยนต์ สภ.เมืองอุบลราชธานี ขับขี่ผ่านตัววิหารเพื่อไปเปลี่ยนผลัดกลางดึก พบเห็นแสงไฟลอดออกมาจากตัววิหารจึงได้หยุดรถมองด้วยความสงสัย

เจ้าหน้าที่สายตรวจชุดดังกล่าวได้ปีนขึ้นดูที่ช่องหน้าต่างมองเข้าไปในวิหาร ก็พบเงาของคนร้ายกำลังใช้ช้อนกินข้าวตักทองบริเวณหน้าตักและแขนขององค์พระโดยไม่เห็นแสงไฟ จึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้

หลังจากนั้นเมื่อถามหาไฟฉายที่คนร้ายอาจใช้เป็นอุปกรณ์ส่องแสงสว่างในการเข้าโจรกรรม คนร้ายก็ระบุว่าไม่มีไฟฉาย เพราะเป็นคืนเดือนหงายสามารถมองเห็นองค์พระ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉาย เพราะจะเป็นที่ผิดสังเกตของคนในวัดได้โดยง่าย สร้างความสนเท่ห์ให้เจ้าหน้าที่และคนร้ายเป็นอย่างมากด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น