อุทัยธานี – จังหวัดอุทัยธานี เจอแล้งกลางฝน แหล่งน้ำแห้งไม่พอสูบ-ชลประทานหยุดระบายน้ำจากอ่างทับเสลา คาดพื้นที่การเกษตร 5 อำเภอเสี่ยงเสียหายนับหมื่นไร่
วันนี้(18 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่หลายพื้นที่ของประเทศไทย กำลังประสบปัญหาผลกระทบจากพายุเบบินคา ที่ทำให้เกิดน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก แต่ “อุทัยธานี” กลับประสบปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วงมาเกือบ 2 เดือน พืชผลทางการเกษตรเสียหายเป็นวงกว้าง
โดยเฉพาะในหลายพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ลานสัก อ.ทัพทัน อ.หนองขาหย่าง อ.หนองฉาง และ อ.เมืองอุทัยธานี พบว่านาข้าว-พืชสวน พืชไร่ ขาดแคลนน้ำเสียหายทยอยยืนต้นตายแล้วในบางส่วน ขณะที่โครงการชลประทานอุทัยธานี ที่ปล่อยน้ำจากอ่างทับเสา เข้าพื้นที่การเกษตรใน 5 อำเภอดังกล่าวตั้งแต่ 3 ส.ค. ก็ต้องปิดการระบายน้ำตั้งแต่ 17 ส.ค.แล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำภายในอ่างนั้นคงเหลือน้อยมาก
เฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง ซึ่งต้องพึ่งพาน้ำจากอ่างเก็บน้ำทับเสลา ขณะนี้พบว่านาข้าวของเกษตรกรเสียหายแล้วกว่า 1,000 ไร่ และยังคงมีนาข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวง รวมถึงที่ออกรวงแล้ว ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นไม่หยุด
นายสงคราม สอนจีน อายุ 73 ปี เกษตรกรในพื้นที่ หมู่ 2 ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง เล่าว่า หลังจากลงมือปลูกข้าวกันในรอบนี้แล้ว ก็เจอฝนทิ้งช่วงมานานเกือบ 2 เดือน พื้นที่นาข้าวโดยรอบไม่มีน้ำเข้ามาหล่อเลี้ยงต้นข้าว จนทำให้ข้าวแดง เมล็ดข้าวลีบ ตลอดจนข้าวแห้งยืนต้นตายเสียหายหมดทั้งทุ่งก็มี ซึ่งนาข้าวของตนที่ได้ปลูกไว้ในรอบนี้จำนวน 23 ไร่ 3 งาน ก็กำลังประสบปัญหาข้าวขาดน้ำ และใกล้จะยืนต้นตายเหมือนกัน
นายสมเกียรติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง กล่าวว่า พื้นที่การเกษตรของตน ต้องใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำทับเสลา ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการปิดการระบายน้ำลงมาช่วยเหลือแล้ว ทำให้พื้นที่ท้ายน้ำ ที่ยังไม่ได้รับน้ำต้องรอลุ้นกันว่านาข้าวของตัวเองจะเหลือรอดกันได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมานานแล้ว ทำให้น้ำในแหล่งกักเก็บน้ำ ลดลงจนไม่พอที่สูบมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่ปลูกไว้
“ปีนี้ฝนทิ้งช่วงนานกว่าทุกปีที่ผ่านมามาก หากช่วงนี้ไม่มีฝนตกลงมาช่วย พืชผลทางการเกษตร ทั้งพืชไร่ และนาข้าว จะได้รับความเสียหายหลายหมื่นไร่อย่างแน่นอน ส่วนที่เสียหายไปแล้ว ก็คงต้องรอดูการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐตามความเหมาะสม”
