นครปฐม - สนธิกำลังหลายหน่วย บุกจู่โจมโรงเชือดหมูนักการเมืองคนดังกลางเมือง ขณะกำลังเชือดหมูนับ 100 คน ได้แรงงานหนีเข้าเมือง 12 คน อีก 4 คนทำงานผิดประเภท แถมฉี่ม่วงอีก 4 ราย
วันนี้ (17 ส.ค.) ชุดปฏิบัติการตรวจสอบแรงงานต่างด้าว ซึ่งเป็นการสนธิกำลังกันโดยการประสานงานของ พล.ต.กิตติพันธ์ ชูพิพัฒน์ เจ้ากรมการสัตว์ทหารบก จังหวัดนครปฐม พล.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร กรมการสัตว์ทหารบก
นำโดย พ.ท.อรรณพ ชอบประดิษฐ์ ผบ.ร้อย รส.จังหวัดนครปฐม ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดนครปฐม ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดนครปฐม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดนครปฐม ซึ่งนำกำลังกว่า 50 นาย ในการเข้าตรวจสอบภายในโรงฆ่าสัตว์และพักสัตว์กำนันหลี เลขที่ 117/20 ม.8 ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม
โดยการเข้าปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการเข้าจู่โจมโดยไม่เปิดเผยเป้าหมาย ซึ่งใช้เวลารวบรวมกำลังเจ้าหน้าที่ไม่กี่นาที เพื่อเข้าเป้าหมายแบบไม่ให้ทันตั้งตัว ซึ่งภายในป็นโรงเชือดและพักสัตว์ขนาดใหญ่ ซึ่งกำลังมีแรงงานชาวต่างด้าว ชายหญิงกำลังลงมีดเชือดสุกร และชำแหละเพื่อเตรียมนำส่งนับ 100 คน และเมื่อคนงานทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่ได้ทิ้งเครื่องมือ และวิ่งหนีการเข้าตรวจสอบไปคนละทิศละทางโดยเป็นไปด้วยความโกลาหล
โดยมีแรงงานหลายคนได้พยายามหนีสุดฤทธิ์ และได้กระโดดหลบลงไปในน้ำบ่อพักมูลสุกร ซึ่งมีสีดำเข้ม และมีกลิ่นเหม็นรุนแรงโดยการดำน้ำเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายไปไม่รอด จึงได้ทำการควบคุมตัวเพื่อมาตรวจสอบเอกสารและตรวจหาสารเสพติด
ซึ่งผลการจับกุมดังกล่าว พบว่า โรงฆ่าสัตว์แห่งนี้มีคนงาน จำนวน 147 ราย เป็น ชาย 98 คน หญิง 49 คน
พบผู้กระทำความผิด 16 ราย แบ่งเป็นแรงงานต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จํานวน12 ราย เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จํานวน 4 ราย และได้ตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ พบแรงงานต่างด้าวเสพสารเสพติด แอมเฟตามีน จำนวน 4 ราย
สำหรับแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่ผิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้ทำการควบคุมตัว และดำเนินการสอบสวนและแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จนท.ชุดจับกุมได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ให้ดำเนินคดีต่อ น.ส.จีรวรรณ เชื่อมวราศาสตร์ ซึ่งเป็นนายจ้าง ในข้อหารับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทํางานและให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายพ้นการจับกุม
ทั้งนี้ การบุกเข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวในจังหวัดนครปฐม นับเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการกวดขันให้แรงงานผิดกฏหมายและนายจ้างที่ยังกระทำผิดกฎหมายแรงงานอย่างเข้มข้น หลังจากมีการพบว่า มีชาวพม่าเข้ามาฝังตัวในพื้นที่และเป็นนายหน้าที่มีพฤติกรรมค้ามนุษย์ โดยได้มีการกวาดล้างอย่างหนักจนสามารถกดดันแรงงานที่ผิดกฎหมายที่ยังคงหลบเลี่ยงแอบทำงานโดยผิดกฎหมายได้อย่างต่อเนื่อง
กระทั่งมีข่าวแพร่สะพัดไปในกลุ่มแรงงานถึงการกวาดล้างอย่างหนักในจังหวัดนครปฐมในช่วงนี้ โดยสถานที่การกวดขันจับกุมดังกล่าวเป็นของ นายพิเชียร เชื่อมวราศาสตร์ หรือกำนันหลี อดีตนายก อบต.บ่อพลับ และเป็นนักการเมืองคนดังในตัวเมืองนครปฐม ซึ่งมีธุรกิจเชือดเนื้อสุกรวันละหลาย 100 ตัว เป็นแห่งใหญ่อันดับต้นๆ ในตัวเมือง