กาญจนบุรี - พบกระทิงป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ ขึ้นอืดติดกลางลำห้วยรันตี เพิ่มอีก 2 ตัว รวมเป็น 6 ตัวแล้ว คาดเสียชีวิตจากภัยน้ำป่าไหลหลาก
จากกรณี นายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ พบซากกระทิงเพศผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพผิวหนังเปื่อยขึ้นอืดบริเวณลำห้วยรันตี พื้นที่บ้านกองม่องทะ หมู่ 2 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี รวมจำนวน 4 ตัว
โดยคณะเจ้าหน้าที่พบซากกระทิงเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.ของวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงประสานให้คณะสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อผ่าซากพิสูจน์ถึงสาเหตุการตาย แต่สามารถผ่าซากกระทิงได้เพียงซากเดียวเท่านั้นเพราะมืดเสียก่อน จึงต้องเดินทางกลับเพื่อความปลอดภัย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น.วันนี้ (16 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่กองร้อย ตชด.ที่134 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี และผู้นำชุมชนบ้านกองม่องทะ
ได้กระจายกำลังกันลาดตระเวนทางเรือไปตามลำห้วยรันตี อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่า พบกระทิงเสียชีวิตเพิ่ม จำนวน 2 ตัว รวมกับที่พบเมื่อวันที่ 15 ส.ค.61 เป็นจำนวน 6 ตัว
สำหรับซากกระทิงที่พบในวันนี้เป็นกระทิงเพศผู้ อายุประมาณ 1 ปี คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน สภาพขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็น ซากติดอยู่กลางลำห้วยรันตี จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายจากฝีมือมนุษย์ คาดว่าเสียชีวิตจากภัยธรรมชาติน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลัน
สำหรับซากกระทิงตัวที่ 2 เป็นกระทิงเพศเมีย อายุประมาณ 15 ปี ซากอยู่ริมตลิ่งติดขอนไม้ อยู่ห่างจากซากกระทิงตัวแรก ประมาณ 50 เมตร คาดว่ากระทิงทั้ง 2 ตัวน่าจะเป็นแม่ลูกกัน จากสภาพคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วันเช่นกัน หลังจากพบซากกระทิง ตนจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นต่อไป
