xs
xsm
sm
md
lg

สังเวยอีกศพ หนุ่มจิตอาสาถูกช้างป่าใช้งวงยกร่างฟาดกับต้นไม้ดับกลางป่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - สลด!! หนุ่มจิตอาสาถูกช้างป่าทำร้ายใช้งวงยกร่างฟาดกับต้นไม้ดับสยองกลางป่า เผยเป็นกำลังหลักทีมเฝ้าระวังช้างป่า เพียง 3 เดือน จิตอาสาดับแล้ว 2 ชาวบ้านสาหัส 1



วันนี้ (16 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.30 น.ของวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้รายงานสถานการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ถึง นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ว่า ได้เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายราษฎรจนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

โดยผู้เสียชีวิต คือ นายมานะ สว่างเมฆ อายุ 56 ปี บริเวณพื้นที่สถานีวนวัฒนวิจัย บ้านเสาหงษ์ ม.2 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเขตอุทยานฯ ทองผาภูมิ เนื่องจากถูกช้างป่าจับเหวี่ยงกระแทกกับต้นไม้ ทำให้ตับถูกกระแทกอย่างรุนแรง ซี่โครงหัก และมีเลือดคั่งในสมอง โดยผู้เสียชีวิตได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติฯ และราษฎรในพื้นที่ออกปฏิบัติงานเฝ้าระวัง และผลักดันช้างป่ามิให้เข้ามาในเขตพื้นที่ชุมชน และพื้นที่ทำการเกษตร บ้านเสาหงษ์ และบริเวณใกล้เคียง

ช้างป่ากลุ่มนี้มีจำนวน 3 ตัว ชื่อเจ้าหูรู เจ้าหน้าบาก และเจ้างาเดียว มีอายุประมาณ 10-15 ปี ลักษณะนิสัยดื้อ หงุดหงิดง่าย และคอยจ้องวิ่งไล่กวดผู้เฝ้าระวังผลักดัน ไม่เกรงกลัวอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลักดันแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายมานะ สว่างเมฆ เป็นทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี และยังเป็นจิตอาสาชุดเฝ้าระวังช้างป่าด้วย โดยก่อนเกิดเหตุได้ร่วมกับชุดเฝ้าระวังช้างป่าบ้านท่าขนุน ชุดเฝ้าระวังกู้ภัยกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลท่าขนุน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวม 50 คน

โดยได้เฝ้าระวัง และผลักดันช้างป่าทั้ง 3 ตัว ที่กำลังหากินพืชไร่ของประชาชนบริเวณป่าหลังสถานีวนวัฒนวิจัยทองผาภูมิ หมู่ 2 บ้านเสาหงษ์ ระหว่างทีมงานทั้งหมดกำลังเฝ้าระวังช้างป่าอยู่นั้น ปรากฏว่า นายมานะ ได้แยกตัวออกจาดกลุ่มไปที่ไร่ข้าวโพด และมันสำปะหลังของตนเองเพื่อระวังช้างป่าไม่ให้เข้ามากินและทำลายพืชไร่ของตนเอง

ด้วยความเป็นห่วงทีมงานจึงใช้วิทยุสื่อสารติดต่อไปยัง นายมานะ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงกระจายกำลังกันออกค้นหา ไม่นานนักก็พบร่างของ นายมานะ นอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้นใกล้กับต้นไม้ โดยขาขวาพาดอยู่กับกิ่งของต้นไม้ และเปลือกของต้นไม้ยังมีร่องรอยฉีกขาดอีกด้วย ทุกคนเชื่อว่าสาเหตุมาจากการถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิตอย่างแน่นอน

จึงรีบแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ ก่อนนำศพไปไว้ที่ รพ.ทองผาภูมิ เพื่อให้ญาตินำศพไปทำพิธีทางศาสนา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียใจให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครอบครัวของ นายมานะ

ทั้งนี้ นายจิรชัย ถนอมวงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สร้างความเสียใจให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมาก ตนในฐานะนายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน ต้องขอแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนายมานะ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย

การเสียชีวิตของ นายมานะ ต้องถือว่าเป็นอุทาหรณ์อีกครั้งหนึ่ง และจะต้องนำมาเป็นบทเรียนให้แก่ทีมงาน และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีจิตอาสาเข้ามาอยู่ในทีมงานเฝ้าระวังและผลักดันช้างในครั้งต่อไป โดยทุกคนจะต้องระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น และอย่าปลีกตัวออกจากกลุ่มไปเพียงลำพังคนเดียวอย่างเด็ดขาด เพราะช้างป่าทั้ง 3 ตัว มีนิสัยที่ดุร้าย ไม่กลัวคน และไม่กลัวอุปกรณ์ที่นำไปขับไล่ ที่สำคัญช้างทั้ง 3 ตัวยังคงหากินอยู่ในพื้นที่ ซึ่งทุกคนจำเป็นจะต้องเฝ้าระวังกันต่อไป

ขณะเดียวกัน นายอานนท์ ถนอมวงษ์ ได้นำคลิปวิดีโอความยาวกว่า 16 นาที มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุว่า “ผมจะยังดูแลพี่น้องตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” โดยเป็นคลิปช้างป่า 3 ตัว ที่ นายอานนท์ และทีมงานออกติดตามหาหลังจากที่ช้างป่าได้ทำร้าย นายมานะ เสียชีวิต เชื่อว่าคือ เจ้าหูรู เจ้าหน้าบาก และเจ้างาเดียว ซึ่งช้างทั้ง 3 ตัว กำลังกินพืชไร่ของชาวบ้านที่อยู่ห่างจากบ้านเสาหงษ์ ประมาณ 100-200 เมตรเท่านั้น

สำหรับตอนสุดท้ายของคลิป พบว่า ช้าง 1 ใน 3 ตัว มีบาดแผลอยู่ที่ศีรษะบริเวณขมับด้านขวา จึงเชื่อได้ว่าช้างป่าตัวดังกล่าวเป็นช้างที่ทำร้าย นายมานะ จนเสียชีวิต แต่เนื่องจากขณะถ่ายคลิปอยู่นั้น ระยะห่างอยู่ใกล้กับช้างมาก นายอานนท์ จึงรีบให้ทีมงานขับรถยนต์หนีออกไปก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่

หลังจากที่ นายอานนท์ โพสต์ได้ไม่นานนัก มีสมาชิกเป็นจำนวนมากเข้ามาแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ นายมานะ รวมทั้งแสดงความเสียใจต่อครอบครัว และกล่าวให้กำลังใจขอให้ นายอานนท์ พร้อมจิตอาสาทีมงานเฝ้าระวังช้างป่า ให้ทุกคนอดทุน และต่อสู้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายปู่ สูงสง่าภูมิ อายุ 73 ปี ชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เนื่องจากกระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด จำนวน 4 ซี่ มีเลือดออกในช่องท้อง อีกทั้งกระดูกสันหลังข้อที่ 1 หักอีก 1 ข้อ แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว เหตุเกิดขณะที่นายปู่ เข้าไปเก็บขมิ้นที่บริเวณป่าช่องยางน่อง บ้านผาอ้น พื้นที่หมู่ 3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

ห่างกันเพียง 11 วัน นายธรรมศิลป์ รัตนนุภาพพจน์ อายุ 54 ปี จิตอาสาทีมงานเฝ้าระวังช้างป่า ถูกช้างป่าทำร้ายด้วยการกระทืบเข้าที่หน้าอกได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ทีมงานชุดเฝ้าระวังช้างป่าที่ไปด้วยกันได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทองผาภูมิ เป็นการเร่งด่วน แต่ นายธรรมศิลป์ ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่บริเวณป่าบ้านผาอ้น หมู่ 3 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสูญเสียให้แก่คนในครอบครัวของผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครอบครัวของ นายธรรมศิลป์ รัตนนุภาพพจน์ และครอบครัวของน ายมานะ สว่างเมฆ ชาวบ้านที่อาสาเข้ามาเฝ้าระวังช้างป่าไม่ให้เข้ามากินและทำลายพืชไร่ของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

หากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ลงมาหาแนวทางแก้ปัญหาให้ได้อย่างยั่งยืน และยังคงให้ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่รวมตัวกันตั้งทีมงานเฝ้าระวังช้างป่าด้วยวิถีทางตามภูมิปัญญาด้วยการใช้เสียงตะโกนขับไล่ รวมทั้งใช้หนังสติ๊ก และระเบิดลูกปิงปองยิง และขว้างใส่ช้างป่าอยู่เช่นนี้ เชื่อว่าอนาคตข้างหน้าจะมีการสูญเสียเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน





กำลังโหลดความคิดเห็น