ศูนย์ข่าวศรีราชา - กลุ่มประมงต้นแบบอ่าวอุดม จ.ชลบุรี เห็นด้วยต่อการประกาศใช้มาตรา 17 จัดการผู้ลักลอบทิ้งขยะ และสร้างความเสียหายให้แก่ทะเล แต่หน่วยงานรัฐต้องมีบุคลากรที่เพียงพอรับมือต่อการจัดการขยะจากทะเลที่มีมหาศาล
จากกรณีที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 จ.ชลบุรี เตรียมที่จะประกาศใช้มาตรา 17 ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 ครอบคลุมพื้นที่ติดชายทะเลใน อ.ศรีราชา และเกาะสีชัง โดยเน้นการลักลอบทิ้งน้ำเสีย ขยะ และการขนถ่ายสินค้ากลางทะเลที่มีฝุ่นละออง จนส่งผลกระทบต่อน้ำทะเล ซึ่งจะมีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับนั้น
ล่าสุด วันนี้ (16 ส.ค.) นายอมรศักดิ์ ปัญญาเจริญศรี ประธานกลุ่มประมงต้นแบบอ่าวอุดม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ออกมาเปิดเผยว่า หน่วยงานรัฐจะต้องแยกขยะออกเป็น 2 ประเภท คือ ขยะที่มาจากทะเล และขยะที่มาจากบ้านเรือนประชาชนริมฝั่ง ซึ่งหากหน่วยงานรัฐสามารถใช้มาตรา 17 ควบคุมได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และกลุ่มประมงก็เห็นด้วย แต่เจ้าหน้าที่ที่ลงไปตรวจสอบจะต้องมีเพียงพอต่อจำนวนเรือสินค้าที่มีจำนวนมาก รวมทั้งเทศบาล และหน่วยงานท้องถิ่นจะต้องบริหารจัดการขยะ และขยะที่อยู่ในทะเลให้ได้
ซึ่งความเดือดร้อนของชาวบ้านก็มีมานานแล้วกับปัญหาขยะ และปัญหาการขนถ่ายสินค้าในทะเลที่การขนส่งส่วนมากเป็นลักษณะเปิด ซึ่งเมื่อกลุ่มประมงได้ลงไปในทะเล ก็จะเห็นว่ามีการฟุ้งกระจายของสินค้าจำพวกแป้งมัน กากถั่วเหลือง หรือสินค้าทางการเกษตร และยังเห็นว่ามีการลักลอบทิ้งขยะจากเรือใหญ่ลงสู่ทะเลบ่อยครั้ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าหน่วยงานใดจะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ซึ่งหากมีการขอความร่วมมือกับชาวบ้านให้ช่วยเก็บขยะ หรือเป็นหูเป็นตาให้ทางราชการ เราก็ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เนื่องจากขยะส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำที่กินขยะพลาสติกเข้าไปจนตายมาหลายครั้งแล้ว
นายอมรศักดิ์ ยังเผยถึงข้อกังวลอีกประการว่า นอกจากบุคลากรในการทำหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องเพียงพอแล้ว การเก็บขยะจากทะเลที่มีจำนวนมหาศาล จะต้องมีการวางแผนว่าจะนำไปทิ้ง หรือกำจัดที่ไหนอย่างไรด้วย เนื่องจากขยะจากเรือสินค้ามีจำนวนมากมาย
ทั้งนี้ เพราะยังไม่มีสถิติที่ชัดเจนว่า จำนวนขยะในแต่ละปีมีมากน้อยเพียงใด ซึ่ง นายดำรง เภตรา นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชัง เคยให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมีเรือสินค้าต่างประเทศเข้าออกบริเวณเกาะสีชัง ประมาณปีละ 1,000 ลำ และแต่ละลำ สร้างปริมาณขยะ 2-3 ตัน จึงทำให้มีขยะที่ต้องกำจัดเฉลี่ย 10-15 ตันต่อวัน หรือประมาณ 300-450 ตันต่อเดือน หรือ 3,650-5,475 ต่อปี
