อุตรดิตถ์ - ตำรวจอุตรดิตถ์ตามส่องบริษัทนายทุนอีสาน ส่งพนักงานแจกใบปลิว-หาลูกค้าผ่อนทองหลายจังหวัดแถบเหนือตอนล่างคล้ายปล่อยกู้รีดดอกเบี้ยโหด ล่าสุดเรียกลูกค้าสอบ-เก็บหลักฐานแล้วร่วม 200 ราย
พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด (สส.ภ.จว.) อุตรดิตถ์, สส.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ และ สส.สภ.ทองแสนขัน พบพฤติกรรมพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งน่าสงสัยเข้าข่ายเหมือนการปล่อยกู้นอกระบบ
บริษัทดังกล่าวมีสำนักงานใหญ่อยู่ในภาคอีสาน มาเปิดสาขาในเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ มีการนำใบแนะนำสินค้าซึ่งเป็นทองคำรูปพรรณไปวางไว้ตามร้านค้า จุดชุมชน และสถานที่ต่างๆ ที่มีประชาชนไปใช้บริการ ขณะเดียวกัน พนักงานของบริษัทก็จะตระเวนออกหาลูกค้า ทั้งใน จ.แพร่ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก และ จ.อุตรดิตถ์
พ.ต.อ.ดิษยเดชกล่าวว่า เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมเอกสารที่บริษัททำสัญญากับลูกค้า พร้อมเชิญมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์แล้ว 891 ราย ทุกรายก็ต่างให้ข้อมูลว่าทองคำรูปพรรณที่ซื้อจากตัวแทนของพนักงานดังกล่าวเป็นทองคำแท้ น้ำหนัก ราคา ค่ากำเหน็จ ก็อิงกับร้านจำหน่ายทองคำทั่วไป
แต่มีจุดที่อาจจะเข้าข่ายลักษณะเดียวกับการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยแพงกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ การซื้อทองคำจากบริษัทดังกล่าวของลูกค้าทุกรายจะซื้อในราคาผ่อน ทั้งแบบผ่อนรายวัน รายสัปดาห์ และแบบรายเดือน จึงทำให้ราคาค่อนข้างแพงกว่าร้านจำหน่ายทองคำทั่วไป
สำหรับการเชิญลูกค้าของบริษัทมาทำการสอบสวน แม้จะยังไม่มีความผิดปกติหรือความผิดข้อกฎหมายที่ชัดเจน แต่ก็อยากจะเตือนประชาชนว่าขอให้ดูและคิดให้มากๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อหรือทำสัญญาผูกมัดกับบริษัทห้างร้านลงไป เพราะหากไม่อ่านรายละเอียดหากเกิดปัญหาจะทำให้เสียเปรียบเอาได้
“การจำหน่ายทองคำรูปพรรณให้กับลูกค้าของบริษัทดังกล่าว หากมองให้ดีพฤติกรรมก็ส่อไปในทางเอาเปรียบลูกค้า ซึ่งจะเหมือนกับการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่บริษัทแห่งนี้ทำเป็นรูปแบบ เพราะเปิดเป็นบริษัทเปิดเผย แต่ลึกๆ อาจจะดำเนินธุรกิจแบบการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยแพง เพียงแต่ไม่ปล่อยเงินกู้โดยตรง แต่เป็นการจำหน่ายทองคำรูปพรรณแทน เมื่อได้รับทองคำรูปพรรณไปแล้วลูกค้าก็นำไปขายในราคาจริงเหมือนกับร้านจำหน่ายทองคำทั่วไป แต่จะต้องผ่อนชำระให้กับบริษัทเจ้าของทองคำที่ซื้อมาครั้งแรกเป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน หากลูกค้าไม่ผ่อนชำระให้ก็อาจจะมีการฟ้องร้องเอากับลูกค้าในภายหลัง”