ยิ่งกว่าถูกหวย! สองแม่ลูกบุรีรัมย์สุดดีใจได้รถกระบะเลี้ยงชีพคืน หลังถูกขโมยไปกว่า 2 เดือน

บุรีรัมย์ - สองแม่ลูกลำปลายมาศ บุรีรัมย์ สุดดีใจหลังพบรถกระบะถูกขโมยไปนานกว่า 2 เดือนจอดทิ้งไว้ข้างอู่ซ่อม แจ้ง ตร.ตรวจสอบพร้อมนำหลักฐานมายืนยัน เผยยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่ 1 แม้เป็นรถเก่าแต่ใช้ทำมาหากินเลี้ยงชีพ บรรทุกของไปขายตลาดนัด

วันนี้ (15 ส.ค.) น.ส.โชติกา จินดาวรินทร์ อายุ 55 ปี และ น.ส.พิมพ์ประภัทร์ รุ่งเรือง อายุ 31 ปี สองแม่ลูกชาว ต.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานคู่มือรถมาติดต่อขอรับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ แค็บ สีเขียว หมายเลขทะเบียน บล 232 บุรีรัมย์ ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ด้วยความดีใจหลังได้ถูกคนร้ายลักขโมยรถคันดังกล่าวไปตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เป็นเวลานานกว่า 2 เดือนแล้วและไม่คาดคิดว่าจะได้คืน


น.ส.พิมพ์ประภัทร์ ผู้เป็นลูกสาว บอกว่า เพิ่งดาวน์รถกระบะมือสองคันดังกล่าวมาจากเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่งในราคา 80,000 บาท เมื่อเดือน เม.ย. 2561ที่ผ่านมา โดยจดทะเบียนเป็นชื่อของแม่ ซึ่งต้องผ่อนชำระรวมดอกเบี้ย 100,000 บาท โดยต้องจ่ายค่างวด งวดละ 3,300 บาท แต่หลังจากส่งงวดไปเพียง 2 เดือน เมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย.ได้ขับรถไปจอดไว้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. จากนั้นให้เพื่อนขี่รถจักรยานยนต์มารับเพื่อไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองบุรีรัมย์

พอ 2 ทุ่มกลับมาเอารถกระบะเพื่อขับกลับบ้านแต่ไม่เจอรถแล้ว ตกใจมากทำอะไรไม่ถูกจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ก่อนให้ญาติมารับกลับบ้าน จากนั้นไปโพสต์ในเพจแจ้งข่าวและโซเชียลมีเดียวต่างๆ ให้ผู้ที่พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแส แต่เวลาผ่านไปนานกว่า 2 เดือนยังเงียบ ตอนแรกตนกับแม่หมดหวังคิดว่าจะไม่ได้รถคืนแล้วเพราะเคยเห็นข่าวรถหลายคันที่ถูกขโมยไม่ได้คืน

กระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้มีพลเมืองดีโทรศัพท์ไปบอกว่าเห็นรถกระบะคันที่ตัวเองโพสต์ไว้ว่าถูกขโมยจอดอยู่ใกล้กับอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปตรวจสอบ ก่อนที่ตนกับแม่จะขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากลำปลายมาศเพื่อนำหลักฐานคู่มือรถมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ด้วยว่ารถคันดังกล่าวเป็นของแม่ตน

ทันทีที่ตนกับแม่มาเห็นรถดีใจมากถึงกับเอ่ยปากว่า ยิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ด้วยซ้ำ เพราะถึงแม้รถคันดังกล่าวจะเป็นรถมือสองและมีสภาพค่อนข้างเก่า แต่เป็นยานพาหนะที่ตนและแม่ไว้ใช้ในการทำมาหากินบรรทุกสิ่งของไปขายตามตลาดนัด แต่หลังจากรถหายไม่มีรถใช้ขนของต้องไปทำงานรับจ้างอย่างอื่นแทน

ทั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและนำรถมาโรงพักไม่พบผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงไม่ทราบว่าใครเป็นคนนำรถคันดังกล่าวมา จากนั้นสองแม่ลูกจึงนำหลักฐานคู่รถทำเรื่องติดต่อขอรับรถกระบะคันดังกล่าวกลับบ้าน พร้อมยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่าไม่ติดใจเอาความกับคนที่ขโมยรถไปเพราะตอนนี้ได้รถคืนแล้ว ขอแค่ให้กลับใจอย่าไปลักขโมยของใครอีก ประกอบกับไม่อยากเสียเวลาทำมากินด้วยเพราะหากเอาความต้องเดินทางมาขึ้นโรงขึ้นศาลอีก สู้เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่า ส่วนรถที่ได้คืนมาก็จะรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม